Loaf Box by Chef Bus เป็นอีกหนึ่งโปรเจ็กท์ของเชฟบัส - ธวัชชัย อัครวงศ์วัฒนา เชฟชาวโคราชเจ้าของดีกรี Finalists จากรายการ Top Chef Thailand ซีซั่น 1 นำเสนอหลากหลายสูตรเค้กกล้วยหอมที่ปรุงขึ้นด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศและฝีมือประณีต เนื้อเค้กนุ่มฉ่ำละมุนลิ้น กล้วยแน่น แตกต่างจากเค้กกล้วยหอมแบบเดิมๆที่เราเคยทานกันอย่างชัดเจน สำหรับครั้งนี้เราได้ลองรสออริจินัล 2 รสชาตินี้ค่ะ ทางร้านอบสดใหม่ทุกออร์เดอร์ ตอนมาส่งที่บ้านเรานี่กล่องนึงยังอุ่นๆอยู่เลย 🍌 เค้กกล้วยคาราเมล / Caramel Banana Loaf (กล่องมินิ 65- / กล่องใหญ่ 125-) เค้กปอนด์โปะหน้าด้วยกล้วยหอมชิ้นโตๆ เคลือบคาราเมลหอมๆจนเงาวับ อบมากำลังสวยน่าทาน จ้วงช้อนลงไปนี่ว้าวเลย เนื้อเค้กนุ่มฉ่ำมากกก...มีชิ้นกล้วยแทรกในเนื้อเค้กด้วย หอมหวานรสคาราเมลผสมกับเนื้อกล้วยนัวๆ เข้ากันดีสุดๆ ทานจนหมดชิ้นก็ไม่รู้สึกฝืดคอเลยแม้แต่น้อย ระดับความหวานกำลังดี อร่อยค่ะ 🍌 เค้กกล้วยช็อคโกแลตคาราเมล / Choco Caramel Banana Loaf (กล่องมินิ 85- / กล่องใหญ่ 165-) เทียบกันแล้วเนื้อเค้กตัวนี้จะแน่นกว่า ความฉ่ำน้อยกว่าตัวแรก แต่ก็ยังมีความนุ่มละมุนลิ้นอยู่ค่ะ สิ่งที่เพิ่มเติมมาคือรสชาติของช็อกโกแลตที่บอกเลยว่าใช้ช็อกโกแลตเกรดดีจริง กลิ่นนี่หอมเด่นมาเลย รสชาติเข้มข้นถึงใจ ด้านบนหน้าเค้กมีชิ้นกล้วยโปะมาและเคลือบคาราเมลฉ่ำๆเช่นเดียวกับตัวแรก คนรักช็อกโกแลตน่าจะถูกใจมากทีเดียว ✅Note✅ ขนมเค้กของที่นี่สามารถเก็บในตู้เย็นได้ไม่เกิน 5 วัน และสามารถทานได้ทั้งแบบเย็นๆ หรือถ้าใครชอบทานร้อนๆเหมือนอบออกมาจากเตาใหม่ๆก็ให้อุ่นในไมโครเวฟ 20 วินาทีค่ะ ✅วิธีการสั่งซื้อ✅ 📌 สั่งซื้อผ่าน LINE @loafboxbychefbus ส่งทั่วไทยเลยจ้า 📌 ซื้อที่หน้าร้าน “บุญปาก” Groove 1st floor, Central World 📌 ซื้อที่ตึก Pulse Tower 3rd floor, BTS สนามเป้า (ตึกเดียวกับร้าน OVERSEOUL) #Funnyapril2021
“เย็นตาโฟต้มยำแซ่บเว่อร์” ร้านที่มีสโลแกนสุดแสนอันตรายว่า “อร่อยลืมเมีย” นี้มี 2 สาขาในตัวเมืองเชียงใหม่ คือสาขาเจ็ดยอดพลาซ่า และสาขาสันติธรรมที่เราแวะมานี้ค่ะ ทางร้านมีทั้งเย็นตาโฟ / ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ / เย็นตาโฟต้มยำ โดยมีของทานเล่นอย่างหมูสะเต๊ะ และของหวานจำพวกน้ำแข็งไส บัวลอย หวานเย็น ของร้านอุดมมิตรให้สั่งด้วย สำหรับครั้งนี้เราเลือกสั่งไปตามนี้ค่ะ ✅ เมนูที่ลอง ✅ ➡️ หมูสะเต๊ะ (ชุดละ 39-) เนื้อหมูติดมันน้อย แต่นุ่มละมุนมาก น้ำจิ้มรสชาติเข้มข้น มีเผ็ดนิดๆ กลิ่นหอมทีเดียว อร่อยถูกใจหยิบกันรัวๆค่ะ ➡️ เย็นตาโฟต้มยำ (50-75 บ.) รสชาติซอสเย็นตาโฟเข้มข้นแต่ไม่หวานจัด ยำมาแซ่บจี๊ดถึงใจ เผ็ดเหงื่อซึมกันเลยทีเดียว สั่งแบบน้ำก็ซดน้ำซุปเพลินมาก สั่งแบบเย็นตาโฟแห้งก็มีแยกน้ำซุปใสรสอ่อนๆมาให้ ชอบแบบไหนจัดไปได้เลย สำหรับเครื่องเย็นตาโฟนั้นมีให้สั่งทั้งแบบธรรมดา (ลูกชิ้นปลา/ฮือก้วย/หมึกกรอบ/เกี๊ยวปลา/เกี๊ยวกรอบ/เลือดหมู) และแบบเย็นตาโฟทะเลที่เพิ่มปลาหมึกตัวเบิ้มๆและกุ้งแม่น้ำตัวย่อมๆมาให้ด้วย ปลาหมึกลวกมานุ่มกำลังดี บั้งมาให้ทานง่าย ส่วนกุ้งแม่น้ำมาทั้งเปลือก ทานยากนิดนึงแต่ก็เข้าใจล่ะค่ะว่าลวกทั้งเปลือกมันรักษาความนุ่มเด้งของเนื้อกุ้งได้ดีกว่า โดยรวมคืออร่อยแซ่บเว่อร์จริงสมกับชื่อร้านล่ะ ✅ Add-ons ✅ ➡️ เกี๊ยวทอด – ปกติก็มีใส่มาให้ชามละแผ่นอยู่แล้ว เป็นแผ่นเกี๊ยวเปล่าไม่มีไส้ แต่ทอดกรอบดี สามารถสั่งเพิ่มมาทานเล่นได้ในราคาจานละ 10 บาทนะ ➡️ กร๊อบกรอบ – เป็น item เด็ดของร้านที่ไม่ค่อยเห็นที่อื่น ทำจากแป้งผสมไข่ทอดจนกรอบกริ๊บเคี้ยวสนุก ถ้าสั่งเย็นตาโฟต้มยำจะมีเสิร์ฟเคียงมาให้อยู่แล้ว แต่แม้จะสั่งเมนูอื่นก็สั่งกร๊อบกรอบมาเพิ่มเป็น add-on ได้เช่นกัน สำหรับที่ตั้งร้านสาขานี้ตั้งอยู่บนถนนหัสดีเสวี ปากซอยเจริญสุข ใกล้ๆกับวัดสันติธรรมค่ะ ทั้งหมูสะเต๊ะและเย็นตาโฟต้มยำที่ได้ชิมนั้นจัดว่าอร่อยทีเดียว ปรุงรสเป๊ะ เครื่องแน่น ราคาไม่แรงมาก พนักงานบริการดีน่ารัก ใครสายแซ่บผ่านไปแวะจัดดูได้จ้า ======================================== 📌 Address: 2 Charoensuk Rd, Tambon Chang Phueak, Mueang Chiang Mai District, Chiang Mai 50300 📌 ที่อยู่: 2 ซอย เจริญสุข ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50300 🌎 Google Map: https://goo.gl/maps/b2DJi4UW2VKys5Yg6 📞 Tel: +66839476735 ⏰ Opening Hours : 10.30 – 02.00 Daily #Funnyapril2021
อยู่บ้านต้านโควิดช่วงหยุดยาว นึกอยากทานก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ร้านดังเจ้านี้ขึ้นมาก็เลยกดสั่ง Line Man มาค่ะ ร้าน "แอน ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่" นี้ได้รางวัล Michelin BIB Gourmand ติดต่อกันมาหลายปีจนถึงปี 2021 นี้เลย ตัวเลือกของก๋วยเตี๋ยวมีทั้งก๋วยเตี๋ยวคั่วธรรมดาและก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่อบ (เส้นกรอบ) ส่วนตัวคิดว่าแบบอบควรไปทานที่ร้านตอนทำเสร็จใหม่ๆจะดีที่สุด สำหรับการสั่งแบบ delivery นี้เราเลยสั่งคั่วไก่ธรรมดานะคะ ➡️ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ - ตอนมาถึงนี่ก๋วยเตี๋ยวยังร้อนจี๋เลย ผัดเส้นหอมควัน ตรงขอบๆมีกรอบนิดๆตรงกลางนุ่ม รสชาติกลมกล่อม ไม่หนักพริกไทย เนื้อไก่เป็นเนื้อล้วนไม่ปนหนัง เหยาะซอสพริกนิด น้ำส้มสายชูหน่อย อร่อยฟินทีเดียว น่าเสียดายครั้งนี้สั่งช่วงค่ำๆ ทางร้านแจ้งว่าปลาหมึกกรอบหมดซะแล้ว เลยไม่ครบเครื่องนะคะ ➡️ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ + เบคอน - รสชาติไม่ต่างจากห่อแรก แต่เพิ่มเติมคือมีเบคอนที่มีรอบไหม้นิดๆพอหอมๆใส่มาพร้อมกับเนื้อไก่ด้วย เข้ากันดีทีเดียว ชอบค่ะ ➡️ น้ำซุปใส่มะนาวดอง - ทราบมาว่ามีเฉพาะช่วงเย็น ครั้งนี้สั่ง delivery ทางร้านก็ใส่ถุงมาให้ เราชอบที่น้ำซุปที่นี่ใส่มะนาวดองด้วย ทั้งหอม ทั้งช่วยตัดเลี่ยนได้ดีกว่าน้ำซุปปกติอย่างของร้านอื่นๆ จิบคล่องคอดีมากๆ โดยรวมที่ได้ชิมคือรสชาติดีสมกับชื่อเสียง แม้สั่ง delivery มาก็ยังอร่อยได้ไม่ผิดหวังค่ะ #Funnyapril2021
Albricias - ห้องอาหารบนชั้น 4 ของโรงแรม Chatrium Residence Sathon นี้มีชื่อเป็นภาษาสเปนที่มีความหมายสื่อถึงการแสดงความชื่นชมยินดี เข้ากับสไตล์อาหารซึ่งเป็นอาหารสเปนแท้ๆภายใต้การนำของ Executive Chef Joan Tana Dot – เชฟชาวสเปนผู้จบการศึกษาจาก Escola Ballart ที่ Barcelona และได้ผ่านประสบการณ์จากภัตตาคารระดับสามดาวมิชลินมาแล้ว อีกทั้งยังเคยทำงานในห้องอาหารสเปนของโรงแรมชั้นนำในกรุงเทพฯ ก่อนจะย้ายมาประจำที่นี่เมื่อราวปี 2019 ค่ะ ✅ เมนูที่สั่งมาลอง ✅ ➡️ BRAVAS (180++ Bht) เป็น Patatas bravas หรือมันฝรั่งทอดสไตล์สเปนที่พรีเซ้นต์ได้หรูหรามาก เสิร์ฟมาเป็นชิ้นทรงกระบอกขนาดพอดีคำ สอดไส้ด้วย Spicy tomato sauce ที่ให้รสเผ็ดเบาๆพอชูรส ท็อปด้วย aioli แล้วแต่งจานด้วย black garlic aioli โรยผง paprika บางๆรอบจาน เนื้อมันฝรั่งเป็นแบบนุ่มแต่ได้สัมผัสที่ดี ซอสอร่อย ทานรวมกันคือปลื้มปริ่มสุดๆค่ะ ➡️ TORCHED JAPANESE HAMACHI (480++ Bht) ปลาฮามาจิเนื้อนุ่ม-แน่น เบิร์นไฟมาบางๆ แต่งแต้มด้วย Aji Verde หรือซอสเผ็ดของเปรู, guacamole ที่โรยด้วย olive oil caviar เม็ดจิ๋วๆ และ yuzu gel ใสๆเพิ่มรสเปรี้ยวสดชื่น รอบจานมีผงสาหร่ายโนริโปรยไว้ด้วย อร่อยลงตัวทีเดียว ➡️ HOKKAIDO SCALLOPS (890++ Bht) หอยเชลล์ตัวอวบๆเนื้อนุ่ม เบิร์นไฟมากำลังสวย ราดซอสครีมข้าวโพดที่เนื้อเบาเป็นฟองโฟม ใส่ pine nut และเห็ด porcino รสชาติจะอ่อนๆละมุนๆ มี Joselito Iberico ham ที่มีชื่อเสียงระดับโลกท็อปมาให้หลายชิ้น เพิ่มรสเค็มให้สมดุลกับความครีมมี่ของซอส เป็นอีกจานที่น่าประทับใจค่ะ ➡️ CHARCOAL-GRILLED GALICIAN OCTOPUS (890++ Bht) หนวดหมึกย่างชิ้นอวบ หอมกลิ่นย่างกรุ่น เนื้อนุ่ม ปรุงรสด้วย Red Mojo sauce ที่ทำจากเม็ดพริกไทย pink peppercorn เสิร์ฟวางมาบนซอสเนื้อเนียนที่ทำจากมันฝรั่งเหยาะด้วย sherry vinaigrette แล้วตกแต่งด้วยใบ baby spinach รสชาติดีใช้ได้ทีเดียว ➡️ PRESA IBERICA JOSELITO (890++ Bht) เมนูนี้ใช้เนื้อของหมูดำ Iberian pig ส่วนระหว่างไหล่กับบ่า ซึ่งในหมู 1 ตัวจะมีเนื้อส่วนนี้พอให้ทำเมนูนี้ได้แค่ 4 จานเท่านั้น นำมาย่างถ่านด้วยกรรมวิธี Tataki แบบญี่ปุ่นจนสุกแบบ medium rare ทั้งหอมทั้งนุ่ม เนื้อหมูเนียนละเอียดละมุนลิ้นสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นหมูพันธุ์ดีระดับโลก ราดมาด้วย Vitello tonnato sauce ที่ทำจาก caper และ anchovy ทานกับไข่นกกระทาที่ต้มแบบยางตูมไข่แดงเยิ้มๆ อร่อยน้ำตาจิไหล จานนี้ต้องสั่งจริงๆบอกเลย ➡️ LA FIDEUA (1,390++Bht) Fideuà – เมนูท้องถิ่นของแคว้น Valencia และ Catalonia บ้านเกิดของเชฟนี้มีวิธีการปรุงแบบเดียวกับ Paella หรือข้าวผัดสเปนเป๊ะๆ เพียงแต่เปลี่ยนจากข้าวมาเป็น Fideo pasta เส้นสั้นๆแทน โดยนำเส้นพาสต้ามาเคี่ยวกับส่วนผสมต่างๆเช่นเดียวกับการทำ paella ได้รสเครื่องปรุงที่เบสเป็นหมึกดำกับซอสมะเขือเทศนัวๆเข้าเนื้อ ใส่หอยตลับ หนวดหมึก และไส้กรอก Txistorra รสเปรี้ยวเพิ่มความจัดจ้าน เสิร์ฟมาจานใหญ่สำหรับแบ่งกันทานได้ 2-4 คน ชิมแล้วเราปลื้มมากกว่า paella ที่เป็นข้าวซะอีกล่ะ มีเรื่องเล่ากันว่า Fideuà นี้ถูกคิดค้นขึ้นในปี ค.ศ. 1915 โดยชาวประมงชาว Gandia ชื่อ Joan Batiste Pascual – ด้วยสาเหตุว่ากัปตันเรือของเขานั้นชอบทานข้าวเป็นชีวิตจิตใจ ทานข้าวจุจนลูกเรือคนอื่นๆได้รับส่วนแบ่งอาหารไม่เพียงพอ ตา Pascual แกเลยจงใจแกล้งเปลี่ยนเอาพาสต้ามาปรุง Paella แทนข้าว เผื่อกัปตันจะได้เจริญอาหารน้อยลงบ้าง ผลปรากฏว่าออกมาอร่อยจนกลายเป็นเมนูฮิตแพร่หลายไปทั่วทั้งภูมิภาคชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน บทสรุปของเรื่องนี้ก็คือลูกเรือน่าจะต้องอดอยากหนักขึ้นกว่าเดิมไปอีกล่ะจ้ะ (555) ➡️ BETTER THAN… (590++ Bht) เป็นเค้กขนาด 1 ปอนด์ที่ต้องใช้เวลาเตรียมถึง 45 นาที จึงควรสั่งพร้อมๆของคาวไปเลยเพื่อให้เสร็จพอดีทานเป็นของหวานนะคะ เค้กตัวนี้ใส่แป้งน้อยมาก แป้งเค้กบางกรอบมีกลิ่นของน้ำตาลที่โดน caramelized นิดๆ เจาะนิดเดียวไส้ในที่เป็นช็อกโกแลตลาวาล้นๆก็ไหลทะลักนองท่วมท้นออกมาเลย เป็นช็อกโกแลตสไตล์สเปนแท้ๆคือมีความข้น แต่กลิ่นรสช็อกโกแลตไม่ได้หอมเข้มแบบช็อกโกแลตเบลเยี่ยม และไม่ขมเลย รสชาติจึงไม่ “หนัก” มาก ทานได้เพลินๆไปค่ะ เมนูนี้เสิร์ฟคู่มากับไอศกรีมโฮมเมดรสวานิลลาที่ใส่ผง Tahitian Vanilla มาด้วยเต็มๆ เนื้อไอศกรีมเนียนแน่นหอมอร่อย เราสั่งกาแฟร้อนมาจิบแกล้มขนมด้วยคือลงตัวพอดีเลย ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นห้องอาหารในโรงแรม ผนวกกับประสบการณ์ของเชฟ Joan อาหารที่นี่จึงเป็นอาหารสเปนแท้ๆที่ยกระดับทั้งรสชาติ presentation และรายละเอียดให้ประณีตละเมียดละไมแบบ Fine dining รสชาติอร่อยโดนใจทุกจานจนเลือกยากเลยทีเดียว ในแง่บรรยากาศนั้นจะมีความเรียบหรูแบบสากล ดูร่วมสมัย ส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าใส่ “ความเป็นสเปน” ลงไปอีกนิดน่าจะมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นอีก การบริการจัดได้ว่าไร้ที่ติ ราคาสูงตามคุณภาพ แต่ช่วงนี้ทางร้านมีส่วนลดเมื่อจองผ่าน Eatigo ด้วย ใครสนใจลองเข้าไปเลือกช่วงเวลาได้กันค่ะ #Funnyapril2021
Mrs.Hendrick's Recipe - ร้านครัวซองต์เจ้านี้ปกติขายเฉพาะ online ไม่มีหน้าร้าน พอมีโอกาสไปเจอร้านมาออกบูธเลยต้องซื้อมาลองซะหน่อยค่ะ ร้านนี้ขายดิบขายดี แม้ปกติจะมีครัวซองต์หลายรส-หลายไส้ แต่ตอนเราไปถึงคือขายหมดแทบจะเกลี้ยงตู้แล้ว เลยได้ลองแค่ 2 รสนี้ ครัวซองต์ที่นี่จะชิ้นย่อมๆกว่าปกติ สมกับราคานะคะ French Butter (35 บาท) - เป็น Plain Croissant ที่่ผ่าดูโพรงไม่ค่อยสวย มีโบ๋ๆตรงกลางหน่อยนึง แต่ความหอมเนยคือใช้ได้เลย อาจเพราะครัวซองต์ชิ้นเล็ก ส่วนเปลือกก็จะหนาๆหน่อยและกรอบกริ๊บดี ส่วนด้านในนุ่มไม่เท่าเจ้าอื่นแต่รสชาติดีค่ะ Bacon Creamy Sauce (55 บาท) - จุดเด่นของชิ้นนี้คือไส้อร่อยมาก เบคอนนุ่มๆใส่มาจัดเต็ม ซอสครีมรสชาติดี เข้มข้น มีรสมีชาติ แต่ไม่เลี่ยน เลยฟินกว่าชิ้นแรกแบบเห็นได้ชัดเลย ช่วงนี้ทางร้านไปออกบูธที่ Icon Siam อยู่ถึงวันที่ 1 เมษายน 2564 นี้ ใครผ่านไปก็แวะซื้อมาลองได้ ส่วนการสั่งกับทางร้านโดยตรงสามารถแอดไลน์ @mrs.hendricks.rcp หรือ โทร. 082-292-6263 ค่ะ #มีนาแจกหนัก
ร้านนี้แม้ปกติจะอยู่ที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง แต่ก็ไปออกบูธ ออกงานตามที่ต่างๆบ่อยๆ กับครั้งนี้ที่เราได้ซื้อขนมบ้าบิ่นมาลองก็จากบูธที่ทางร้านไปตั้งในห้างใจกลางเมืองล่ะค่ะ แม้ทางร้านจะเชี่ยวชาญเรื่องขนมครกตามชื่อร้าน แถมมีขนมครกหน้าต่างๆมากมายละลานตา แต่เราอยากลองขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อนของทางร้านก่อนนะ มี 2 แบบค่ะ ขนมบ้าบิ่นไรซ์เบอร์รี่มะพร้าวอ่อน ขนมบ้าบิ่นใบเตยมะพร้าวอ่อน ครั้งแรกที่ลองคืออร่อยมาก เนื้อขนมเหนียว นุ่ม หอม หวานน้อย ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนมาให้เยอะแบบกัดไปเจอแน่นอน และใช้มะพร้าวอ่อนล้วนๆ ไม่แอบปนมะพร้าวห้าว ถูกใจสุดๆไปเลย ครั้งที่สองที่ซื้อ รายละเอียดต่างๆยังเหมือนเดิม แต่แอบรูสึกว่าขนมอมน้ำมันเยอะขึ้น ทานแล้วเลยเลี่ยนไปนิดนะคะ #Rettyfamily
ร้านนี้เราก็ใช้บริการ Line Man สั่งมาทานอีกเช่นกันค่ะ สั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วเป็ดย่าง ปริมาณจุใจ เนื้อเป็ดให้มาเยอะเลย แต่เนื้อเหนียวหน่อย ฝีมือผัดรสชาติกลางๆ เส้นใหญ่แอบอมน้ำมันบ้างนะคะ Packaging ดี แน่นหนา ไม่หกเลอะเทอะ ให้ซอสมาเรียบร้อย ในเซ็ทที่สั่งมีโกโก้เย็นรวมอยู่ด้วย ชงมาเข้มข้นดีใช้ได้ค่ะ #Rettyfamily
ใช้บริการ Line Man สั่งอาหารจากร้านนี้เพราะมีโปรโมชั่นค่าส่ง สั่งมาลอง 2 อย่างค่ะ ผัดไทยไก่ทอด - เส้นผัดไทยนุ่มเหนียวใช้ได้ มีเกาะกันบ้างเพราะไม่ได้ทานตอนทำเสร็จใหม่ๆ แต่คลุกๆก็คลายค่ะ ไก่ทอดชุปแป้งมากรอบดี ราดซอสพริกเบาๆ รสชาติซอสผัดไทยเปรี้ยวหวานเข้มข้น รสจัดทีเดียว ข้าวยำไก่ทอด - ไก่ทอดแบบเดิม แต่ยำมารสจัดใส่ข้าวคั่ว ทานกับข้าวก็พอใช้ได้เลยนะ #Rettyfamily
[For English, please scroll down] Sanriku Sushi - ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะในซอยสุขุมวิท 19 (ซอยข้างๆ Terminal 21) นี้เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 นับเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งแรกในกรุงเทพฯที่นำเสนออาหารท้องถิ่นจากภูมิภาค Tohoku แท้ๆ - สมกับชื่อร้านที่มีความหมายว่า “สามแผ่นดิน” อันเป็นชื่อเรียกของพื้นที่ 3 จังหวัดทางตอนเหนือของภูมิภาคนี้ ได้แก่อิวาเตะ อะคิตะ และมิยากินั่นเอง เมนูอาหารที่นี่มีหลากหลายเป็นเล่มหนา ทราบมาว่ามีกว่า 300 เมนูเลยทีเดียว กับครั้งนี้เราเลือกมาลองกันตามนี้ค่ะ 🥢เมนูที่ลอง🥢 ➡️ ถั่วแระญี่ปุ่นผัดกระเทียม เมนูนี้เอาถั่วแระญี่ปุ่นไปผัดกระเทียมทั้งเปลือก ตอนผัดนี่กลิ่นหอมโชยทั่วร้านเลย ทานตอนทำเสร็จใหม่ๆคือเพลินมาก เค็มนิดๆ หอมกระเทียมทอดกรุ่น ชอบค่ะ ➡️ เต้าหู้เย็นราดผักดองรวมสไตล์ยามากาตะ จานนี้เป็นอาหารพื้นบ้านของยามากาตะที่นิยมทานกันในฤดูร้อน โดยนำเอาเต้าหู้เย็นนุ่มๆมาราดด้วย Yamagata Dashi ซึ่งก็คือผักต่างๆนำมาหั่นชิ้นเล็กๆคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน สำหรับที่นี่ปรุงตามแบบต้นตำรับแท้ๆ คือใช้ผักที่มีความหนืดๆอย่างฝักกระเจี๊ยบและสาหร่ายผสมกับแตงกวากรอบๆ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสโดยรวมคล้าย salsa - รสชาติปรุงมาอ่อนๆกลมกล่อม ท็อปด้วยปลาโอแห้งเพิ่มความหอม ทานแล้วสดชื่นดีจริงๆเสียด้วยนะคะ ➡️ มิโซซุปใส่กระดูกปลา เป็นซุปมิโซที่ได้รสหวานจากกระดูกปลาและเนื้อปลาที่ใส่ลงไปด้วยกัน จึงกลมกล่อมกำลังพอดี ไม่เค็มนำแบบซุปมิโซทั่วไป จิบแกล้มอาหารได้คล่องคอมากค่ะ ➡️ โอมากาเสะซูชิ 5 อย่าง ภูมิภาคโทโฮคุนั้นมีหลายจังหวัดที่อยู่ติดทะเล จึงมีความโดดเด่นด้านอาหารทะเล ซึ่งก็รวมถึงซูชิด้วย สำหรับเมนูโอมากาเสะของที่นี่ถ้าไม่ได้นั่งติดเคาน์เตอร์ พนักงานก็จะนำซูชิจัดใส่จานมาเสิร์ฟพร้อมกันทีเดียว 5 คำ โดยเชฟจะคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดของแต่ละวันให้ค่ะ สำหรับวันที่เราไปนั้นได้มาเป็น Nigiri Sushi ล้วนๆ มีหน้าทูน่า แซลมอน ฮามาจิ หอยเชลล์ (Hotate) และปลาซันมะดอง (Shime Sanma) สัดส่วนข้าวกับปลากำลังดี ปั้นข้าวได้สวย ไม่แน่นเกินไปและไม่แตก เคล้า awasezu พอให้มีรสมีชาติ เนื้อปลาสดดีทุกคำ อร่อยสอบผ่านเลยจ้า ➡️ เทมปุระรวม 3 อย่าง เป็นเทมปุระกุ้ง 1 ชิ้น และเทมปุระผักอีก 2 อย่างคือมะเขือม่วงและใบชิโสะ ทอดมากรอบๆทานตอนร้อนๆก็โอเคอยู่ แต่ตัวแป้งยังไม่กรอบกริ๊บเท่าพวกร้านที่เชี่ยวชาญด้านเทมปุระโดยเฉพาะนะ ➡️ วาราบิโมจิ วาราบิโมจินุ่มๆหนึบๆ เราสั่งมาลอง 2 แบบ คือแบบคลุกชาเขียว และแบบคลุก “คาราเมล” ซึ่งเราว่าคล้ายผงน้ำตาลทรายแดง มีน้ำเชื่อมคุโรมิตซึหอมๆเสิร์ฟเคียงมาให้ ส่วนตัวแล้วเราชอบรสชาเขียวมากกว่านิดหน่อย ทางร้านคลุกผงชามาหนาๆ ได้กลิ่นรสชาเขียวเต็มๆสะใจ มีความขมชาเขียวที่สมดุลกับความหวานของน้ำเชื่อมดีค่ะ นอกจากรสชาติของอาหารที่ทำได้ดีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบก็คือบรรยากาศแบบร้านอิซากายะที่แท้ทรู เหมือนได้วาร์ปไปเที่ยวญี่ปุ่นจริงๆเลย สำหรับช่วงนี้ที่มีการระบาดของ covid-19 ทำให้ร้านอาจดูเงียบๆไปบ้างไม่ครึกครื้นเท่าที่ควร แต่ก็ยังมีการตกแต่งที่มีเสน่ห์แบบญี่ปุ่นแท้ๆพอให้หายคิดถึง จะสายกินหรือสายแฮงเอาท์ก็แวะจัดกันได้นะคะ =================================== Opened in 2016, “Sanriku Sushi Kyodoizakaya” is deemed to be the first izakaya that introduce dishes from Tohoku region to Bangkok diners. The word “Sanriku” (three lands) represents Iwate, Akita and Miyaki, but local cuisine from nearby provinces – and many other standard Japanese dishes- are also presented in the menu. 🥢 We ordered: ➡️ Garlic Edamame The boiled Edamame pods were stir-fried with garlic and served hot from the wok. The smoky (wok hei), garlicky aroma was simply irresistible! ➡️ Dashi Yakko Chilled tofu was covered in “Yamagata Dashi” – a salsa-like mixture of lightly pickled chopped cucumber, okra and seaweed. Light and refreshing, this is a popular summer dish in Yamagata. ➡️ Arajiru Miso soup boiled with fish bones and radish. Flavor was well-balanced, not as salty as the classic miso soup. It matched well with sushi and every other dish that we ordered. ➡️ Omakase Nigiri Nami 5 Kan As this is an izakaya, not a formal omakase restaurant, 5 pieces of chef’s sushi selection were served together on one plate. We were given nigiri sushi of tuna, salmon, hamachi (Japanese amberjack), hotate (scallop), and shime sanma (pickled and grilled Pacific saury). The fish and scallop were all fresh and sweet. The taste of rice flavored with awasezu was well-balanced. Delicious! ➡️ Tenpura Moriawase We got one shrimp tempura and 2 kinds of vegetable tempura (Shiso leave and eggplant). Taste and texture of the crispy batter was moderate. ➡️ Warabi Mochi We tried 2 kinds of warabi mochi; one was coated with green tea powder, and another with “caramel” or a powder that look and taste pretty much like brown sugar. Both were delightful, but my preference leans toward the green tea warabi mochi. The green tea dust had strong aroma and a bitter taste that help cutting down the sweetness from the warabi mochi and kuromitsu syrup. Perfect. Not only that the food was all decent, the ambience was also charming. Sanriku has an authentic Japanese izakaya vibe that make you feel like you’re really in Japan. After a year with travel restriction imposed upon us due to covid-19 outbreak, a place like this is just what the doctor orders for our wanderlust! =================================== 📌 Address: Sukhumvit 19 Alley, Lane 2, Khlong Toei Nuea, Watthana, Bangkok 10110 📌 ที่อยู่: ซอย สุขุมวิท 19 แยก 2 แขวง คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 🌎 Google Map: https://goo.gl/maps/JoUqxJqhXbotPysk6 📞 Tel. +6626512361 🚊 Public Transport: BTS Asoke 🚗 Parking: In front of the restaurant. 📱 FB: https://www.facebook.com/sanriku.sushi.kyodoizakaya #Rettyfamily
“โอเดียน เจ้าเก่าเยาวราช” – ร้านเล็กๆบนถนนเจริญกรุงแห่งนี้นับเป็นตำนานบะหมี่ก้ามปูสูตรฮ่องกงที่โดดเด่นทั้งรสชาติและวัตถุดิบ ดึงดูดสายตาด้วยก้ามปูโตๆที่เรียงรายอยู่หน้าร้านยั่วน้ำลายชวนให้หิว ภายในร้านขนาด 1 ห้องนั้นแม้ดูไม่หรูหราแต่ก็ติดแอร์เย็นสบาย เป็นร้านโปรดที่เวลาเราไปเยาวราชทีไรก็ต้องหาโอกาสแวะอยู่บ่อยๆค่ะ 🦀 บะหมี่ก้ามปู + เกี๊ยวกุ้ง 🦀 แม้ทางร้านจะมีเมนูอื่นๆขายด้วยทั้งกระเพาะปลา ข้าวหน้าไก่ ข้าวผัดปู....ฯลฯ แต่บะหมี่ก้ามปูนี่คือเมนูเด็ดที่เรียกว่าถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึงร้านกันเลย ขอเม้นต์เป็นส่วนๆนะคะ ➡️ ก้ามปู - มีหลายขนาด หลายราคาให้เลือกได้ตามงบในกระเป๋า แต่ถ้าไปช่วงเย็นๆไซส์ใหญ่สุดมักจะหมด เหลือประมาณขนาดที่ราคา 350 -400 บาทค่ะ เนื้อก้ามปูสดหวาน แกะมาให้ทานง่าย ฟินไปยาวๆ มีน้ำจิ้มซีฟู้ดเคียงมาให้จิ้มด้วยล่ะ สำหรับคนที่อยากมาอร่อยง่ายๆแบบงบไม่บานปลาย สามารถสั่งเป็นบะหมี่เนื้อปู (70 บาท) ก็ได้ ให้เนื้อปูมาเยอะใช้ได้นะ ➡️ เส้นบะหมี่ – เป็นบะหมี่เส้นกลมเล็กเรียวที่เด้งสู้ฟันแบบรู้เลยว่าใส่ไข่เยอะ แป้งน้อย สัมผัสตอนเคี้ยวดีมากๆ สมัยก่อนที่นี่จะลวกเส้นแข็ง al dente แบบที่เราชอบเลย แต่หลังๆเจอว่าลวกเส้นนุ่มขึ้น เอาเป็นว่าใครชอบเส้นแข็งหรือเส้นนุ่มบอกร้านไปตอนสั่งเลยน่าจะออกมาถูกใจที่สุดจ้า ➡️ เกี๊ยวกุ้ง - แป้งบาง ไส้นุ่มเด้งได้รสกุ้งชัดเจนดีเลย ➡️ น้ำซุป – รสอ่อนๆแต่อร่อยละมุนซดคล่องคอดีมาก ส่วนตัวสั่งเป็นบะหมี่แห้งแยกน้ำซุปตลอด เพราะเส้นก็เด้งดี กระเทียมเจียวก็กรอบหอม ไม่อยากราดน้ำซุปลงไปให้เสียรสสัมผัสค่ะ 🍤 ของทานเล่น 🍤 ➡️ เกี๊ยวกุ้งกรอบ - เป็นอีกอย่างที่ต้องสั่ง เกี๊ยวกุ้งแบบเดียวกับที่ใส่บะหมี่ เอามาทอดกรอบกริ๊บไม่อมน้ำมัน เสิร์ฟร้อนๆจิ้มน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย ทานเพลินมากๆบอกเลย นอกจากร้านสาขาดั้งเดิมนี้แล้ว ทางร้านยังไปเปิดสาขาที่ 2 อยู่ที่รัตนาธิเบศร์ ใครสะดวกย่านไหนก็แวะลองดูได้ค่ะ #Rettyfamily
เปิด Line Man หาร้านหวานเย็นทานให้ชื่นใจคลายร้อน เจอร้านนี้ที่นอกจากจะโด่งดังพอตัวในฐานะเจ้าเด็ดย่านบางรักแล้ว ยังมีโปรค่าส่งเริ่มต้น 0 บาท เลยกดสั่งมาลองเลยค่ะ เมนูหลักๆจะมีโบ๊ยเกี๊ย, เต้าทึง (เครื่องเหมือนโบ๊ยเกี๊ย แต่ไม่ใส่แป้งโบ๊ยเกี๊ย) และหมี่หวานซึ่งสามารถ สั่งรวมกันเป็นโบ๊ยเกี๊ยหมี่หวานได้ สั่งเพิ่มแป้งโบ๊ยเกี๊ยเป็นพิเศษก็ได้ด้วยค่ะ 🍧 โบ๊ยเกี๊ย - สั่งเมนูหลักตามชื่อร้าน เครื่องที่ใส่มาประกอบไปด้วย แป้งกลม แป้งยาว แปะก๊วย พุทธาเชื่อม ข้าวโพด ลูกเดือย ถั่วแดง มันเชื่อม ลูกชิด วุ้นลูกตาล เฉาก๊วย ชิมดูแล้วแป้งโบ๊ยเกี๊ยหนึบหนับดี ส่วนน้ำเชื่อมเป็นสูตรน้ำตาลทรายแดงเข้มข้น ทำให้มีความหวานค่อนข้างมาก แต่หอมกลิ่นน้ำตาลทรายแดงชัดเจน ถ้าใส่น้ำแข็งเยอะๆก็ช่วยเจือจางให้คลายหวานลงได้บ้าง แต่ก็ทำให้กลิ่นหอมพลอยจางลงด้วยนะคะ โดยรวมก็เป็นของหวานที่ทานแล้วชื่นใจดี เครื่องแน่นใช้ได้ เข้าหน้าร้อนแล้ว นึกอยากทานขนมเย็นๆก็จัดกันได้เลย #Rettyfamily
ผ่านมาย่านดินแดงตอนช่วงบ่ายๆอากาศร้อนๆ มาเจอร้านนี้ที่เป็นร้านริมทาง ขายขนมหวานเย็นแบบไทยๆ เครื่องเยอะวางเต็มหน้าร้านทั้งทับทิมกรอบ สลิ่ม วุ้นมะพร้าว ข้าวโพด ถั่วแดง เยลลี่...และอื่นๆอีกมากมาย จะเลือกสั่งตามที่ทางร้านจัดไว้แล้วตั้งชื่อเก๋ๆให้สั่งง่าย หรือจะ mix&match เอาเองก็ได้ทั้งนั้น เราเลยแวะลองดูซักหน่อยค่ะ 🍨 ขาวมณี - เมนูนี้คือมะพร้าวกะทิอย่างเดียวเพียวๆเน้นๆกันไป ไม่มีเครื่องอย่างอื่นเลยค่ะ ถูกใจคนชอบทานมะพร้าวกะทิอย่างเราที่สุด มะพร้าวกะทินุ่มหนึบหอมมัน น้ำกะทิไม่ได้มีกลิ่นมะลิหรืออบควันเทียนใดๆ แต่มีดีที่หวานน้อยซดกำลังชื่นใจพอดีๆ น้ำแข็งไสมาละเอียดดี โดยรวมแล้วจัดว่าใช้ได้เลยนะ #Rettyfamily #Rettyกรุงเทพ
เราไปเจอเกี๊ยวซ่าเจ้านี้ตอนไปออกงานนอกสถานที่นะคะ พอกลับมาหาข้อมูลดูถึงได้รู้ว่าร้านเค้าก็ดังอยู่เหมือนกัน จุดเด่นของเกี๊ยวซ่าเจ้านี้คือตัวอวบอ้วน ยัดไส้แบบตู้มๆ และขายราคาเบาๆแค่ชิ้นละ 10 บาท ทราบมาว่าอันที่จริงแล้วร้านมีสูตรเกี๊ยวซ่าถึง 7 ไส้ แต่วันที่ไปเจอ 5 ไส้นี้ค่ะ เกี๊ยวซ่าไส้หมู - ไส้คลาสสิกเลยชิ้นนี้ เกี๊ยวซ่าไส้กุ้ง - จริงๆก็คือหมูผสมกุ้งนะคะ เกี๊ยวซ่าไส้เห็ดหอม - ชิ้นนี้แป้งห่อจะเป็นสีเหลือง เกี๊ยวซ่าไส้ชีส (คือหมูคลุกชีส) - ชิ้นนี้แป้งจะเป็นสีดำค่ะ เกี๊ยวซ่าไส้ต้มยำ - ชิ้นกลมๆเหมือนเสี่ยวหลงเปาเลย เราสั่งมาลองอย่างละชิ้น ทางร้านทอดแบบแป้งกรอบ เนื้อแป้งค่อนข้างหนา และมีอมน้ำมันทำให้เลี่ยนบ้าง แต่ไส้แน่นจริงตู้มจริง เราชอบไส้หมูกับกุ้งมากที่สุด เพราะไส้ชีสออกจะเลี่ยนไปนิด ส่วนไส้ต้มยำก็จัดจ้านจนรู้สึกแปลกๆเกินไปน่ะค่ะ แต่โดยรวมพอเทียบรสชาติ คุณภาพ กับราคา ก็ต้องถือว่าดีใช้ได้เลยทีเดียว #Rettyfamily #Rettyกรุงเทพ
ร้านขนมจีบต้มโกนานี้เรามีโอกาสได้ลองตอนร้านมาออกบูธนอกสถานที่นะคะ ทราบมาว่าที่จริงแล้วร้านทำขนมจีบอยู่ 4 แบบ คือ ไส้หมู / ไส้หมู+ไข่เค็ม / หมู + กุ้ง / หมู + ปู แต่วันที่เจอมี 3 ไส้นี้ให้สั่งมาลองกันค่ะ ทางร้านโรยกระเทียมเจียวมาให้เยอะ กรอบหอมพอใช้ทีเดียว ขนมจีบไส้หมู - อันนี้ธรรมดาทั่วไปนะคะ ขนมจีบไส้หมูกุ้ง - ไส้หมูผสมกุ้งเห็นกุ้งเป็นชิ้นๆ หอมเด้งได้ใจ ขนมจีบไส้หมูไข่เค็ม - ไข่เค็มคัดเอาแต่ไข่แดงเค็มๆมันๆ เพิ่มรสชาติได้ดีเลย จุดเด่นของร้านนี้ก็คือนอกจากจะมีน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วมาให้เหมือนร้านขนมจีบทั่วไปแล้ว ยังมีน้ำจิ้มซีฟู้ดมะนาวแท้ให้ด้วย เปรี้ยวแซ่บ เข้ากับขนมจีบดีเหมือนกันค่ะ #Rettyfamily #Rettyกรุงเทพ
Component Lab – คาเฟ่ที่เปิดเมื่อราวกลางปีที่แล้วบนย่านถนนนิมมานนี้มี concept เป็น coffee bar ตอนกลางวัน และ cocktail bar ยามค่ำคืน ตกแต่งร้านไตล์ futuristic เท่ห์ๆ เน้นสีดำเป็นธีมหลักดูเรียบหรู ตัดกับแสงไฟนีออนสีขาวที่เรียงตัวโดดเด่นอยู่กลางร้านและลูกแก้วเรืองแสงบนเคาน์เตอร์บาร์ที่ชวนให้นึกถึงดวงจันทร์ เป็นบรรยากาศที่ดูลึกลับและเย้ายวนอยู่ในที มีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดใจจนต้องขอแวะไปลองดูซักหน่อยล่ะค่ะ 🍷กาแฟ🍷 ที่นี่เสิร์ฟเฉพาะกาแฟ Cold Brew และ Cold Drip เท่านั้น โดยมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายชนิด จำแนกเป็น standard / rare / exotic ซึ่งทางร้านจะเปลี่ยนแปลงรายการเมล็ดกาแฟทุก 2 เดือน ไม่ให้จำเจค่ะ เราเลือกแก้วนี้มาลอง ➡️ Cold Drip เมล็ดกาแฟ : Ethiopia Yirgacheffe (120 Bht) Tasting Notes : Blueberry Candy and Citrus เลือกสั่งเป็นกาแฟ Cold Drip ซึ่งจะมีรสชาติที่เข้มข้นและชัดเจนกว่า Cold Brew เสิร์ฟในแก้วใสใส่น้ำแข็งเย็นสดชื่น tasting notes ชัดอย่างที่คาด ได้รส blueberry candy ที่คล้ายลูกอมซูกัส แทรกเปรี้ยวแค่บางๆ aftertaste เป็น chocolate อาจเพราะไปช่วงที่ทางร้านไม่ยุ่งมาก บาริสต้าเลยใจดีชงเมล็ดกาแฟตัวเดียวกันแบบ drip ร้อนใส่น้ำแข็งมาให้ชิมเปรียบเทียบ ตามหลักแล้วกาแฟดริปเย็นจะสกัดเอาน้ำมันและกรดออกมาจากกาแฟได้น้อยกว่าการดริปด้วยน้ำร้อน เมื่อชิมเทียบกันแล้วแก้วที่ drip ร้อนจึงมีความขมและได้ “กลิ่นกาแฟ” มากกว่า ในขณะที่ Cold Drip จะดึงความหวานตามธรรมชาติของเมล็ดกาแฟออกมาได้มากกว่า และมี tasting notes ที่เด่นชัดกว่ากันนั่นเอง ➡️ Rum Barrel, Washed ตัวนี้ยังไม่มีขาย แต่บาริสต้าแบ่งให้ลองชิม เป็นเมล็ดกาแฟที่ในขั้นตอนการหมัก (fermentation) นั้นได้นำ coffee berry ทั้งลูกไปหมักในถัง Rum Barrel ลองจิบแล้วหอมกลิ่นรัมปนกับกลิ่นกาแฟจริงเสียด้วย ออกมาเป็นรสชาติที่ซับซ้อนและมีความเฉพาะตัวสูงทีเดียว ถูกใจจนต้องบอกบาริสต้าว่าเอามาขายเท๊อะ (ในอนาคตอาจมีในเมนูก็ได้นะ) 🍹Mocktail🍹 แม้ Cocktail จะเสิร์ฟเฉพาะตอนค่ำ แต่ Mocktail นั้นมีให้สั่งได้ตลอดทั้งกลางวัน-กลางคืน เราเลือกสั่งแก้วนี้เลย ➡️ Jaunes : Peach, Jasmine, and Lemon (120 Bht) Mocktail สีเหลืองสมชื่อ รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ หอมมะลิแค่เบาๆ แต่งปากแก้วด้วยพีช 1 ชิ้น และ edible flower ที่ทางร้านบอกว่าเป็นดอกไม้ที่กินได้ แต่กินไปก็ไม่อร่อย (ฮา) เราเลยเขี่ยออก เป็นเครื่องดื่มที่องค์ประกอบไม่ซับซ้อน แต่ก็สดชื่นดีนะ โดยรวมแล้วเป็นร้านที่น่าสนใจทั้ง vibes และ concept มีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายรวมไปถึงเมล็ดกาแฟหายากจากแหล่งต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คอกาแฟสายเย็นน่าจะถูกใจค่ะ ============================================ 📌 Address : 15/2 Nimman Road (Nimmanhaemin), between lane 3 and 5, 50200 Chiang Mai. 📌 ที่อยู่: 15/2 ถนนนิมมานเหมินท์ (อยู่ระหว่างปากซอยนิมมาน 3 และ 5), เชียงใหม่ 50200 🌎 Google Map: https://goo.gl/maps/4HoAgFd8uNuzVeay6 📞 Tel. +66653541614 ⏰ Coffee : 8.00 – 18.00 Cocktails : 18.30 – 00.00 #Rettyfamily #Rettyกรุงเทพ
แวะมานั่งชิลล์ยามเช้าตรู่ที่ “Finnland Republic” – คาเฟ่เปิดใหม่บนถนนนิมมาน ซอย 9 ที่ดึงดูดเราด้วยกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นจาก “Baristopia” และเบเกอรี่อบสดใหม่จาก “Delicious Destination” ตัวร้านมี 2 ชั้นใหญ่โตกว้างขวาง ตกแต่งร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และผ้า เน้นโทนสีอ่อนสไตล์ Scandinavian ที่ดูแล้วชวนให้รู้สึกอบอุ่นไปถึงหัวใจ เราเลือกที่นั่งบนชั้น 2 ของร้าน ติดกับหน้าต่างกระจกโปร่งๆรับแสงแดดอ่อนๆ แล้วจัดมื้อเช้าเบาๆไปตามนี้เลยค่ะ ☕️-เครื่องดื่ม-☕️ แม้ชื่อของ Baristopia จะสื่อถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกาแฟ แต่เมนูเครื่องดื่มของทางร้านก็มีหลากหลายทั้ง coffee และ non-coffee ให้เลือกนะคะ สำหรับเราที่ยังไงซะก็ต้องจัดกาแฟรับอรุณทุกวันขอเลือกสั่งตามนี้เลย ➡️ Mustang (150 Bht) - หนึ่งในเมนูแนะนำของทางร้านแก้วนี้เป็น Dirty ที่มีการโปรยผง dried espresso ไว้บนผิวหน้าด้วย ซึ่ง Dirty ของที่นี่จะไม่ใช้ espresso/ristretto shot อย่างร้านอื่นๆทั่วไป แต่ใช้เฉพาะ Aromatic oil droplets ที่กลั่นออกมาจากเมล็ดกาแฟเท่านั้น เน้นกลิ่นหอมเต็มๆ รสชาตินุ่มนวล พอเสริมด้วยความมันของนมและความหอมเข้มของผง espresso ที่โปรยมาก็ยิ่งได้กลิ่นหอมกาแฟกรุ่นอวล จิบทีนี่ฟินเคลิ้มไปเลย หลงรักแก้วนี้มากๆค่ะ ➡️ Hot Americano (80 Bht) – แก้วนี้คือซื้อกลับแบบ take away เบลนด์กลมๆ กลิ่นและบอดี้กลางๆ จิบได้เรื่อยๆ ไม่ได้โดดเด่นเท่าแก้วแรก แต่ก็ดีใช้ได้อยู่นะ 🥐-เบเกอรี่-🥐 หลักๆแล้วเท่าที่เห็นคือมีมาการองกับครัวซองต์ โดยมีหลายรสชาติให้เลือกค่ะ ➡️ Classic French Butter Croissant (75 Bht) – ทางร้านจะอุ่นให้เมื่อสั่ง ก็เลยต้องใช้เวลารอบ้างนะคะ เนื้อครัวซองต์ที่นี่จะเป็นสไตล์นุ่มนวลละมุนลิ้น ผิวนอกกรอบนิดๆ หอมเนยเต็มๆแต่ไม่แฉะเลี่ยน ชิมแล้วถูกใจเลยสั่งแบบซื้อกลับอีกชิ้นด้วย ทางร้านมีแนบใบสอนวิธีการอุ่นให้เรียบร้อย สะดวกดีทีเดียว ชื่อของร้านคือ “Finnland Republic” นี้เป็นการเล่นคำที่ทำให้นึกถึงประเทศฟินแลนด์ เข้ากับสไตล์การตกแต่งร้าน แต่ที่จริงแล้วมีความหมายแบบไทยๆว่าต้องการให้เป็นดินแดนแห่งความฟินของเหล่า café hoppers อีกด้วย ซึ่งจากที่ได้สัมผัสนี้ก็ต้องบอกว่าฟินจริงอะไรจริง กาแฟและครัวซองต์ดีงาม บรรยากาศชวนให้หลงรัก อยากแวะมานั่งทอดอารมณ์ชิลล์ๆไปนานๆเลยล่ะค่ะ 💕-โปรโมชั่นฉลองสัปดาห์แห่งความรัก-💕 จะมาเดี่ยวหรือมาคู่ก็จัดโปรฟินๆได้ตั้งแต่ 13-21 กุมภาพันธ์ 2564 นี้ค่ะ โดยจับคู่เครื่องดื่มและ/หรือเบเกอรี่... 🥐➕☕️ 🥐➕🥐 ☕️➕☕️ ...แล้วจ่ายแค่ราคาเดียวแบบ 1 แถม 1 ไปเลยจ้า #Rettyกรุงเทพ
#Bangkok #Delivery #FoodTrip4Fun [For English, please scroll down] รตินา หมูสะเต๊ะ (Ratina Satay Pork by Ratina Homestay) – เป็นร้านหมูสะเต๊ะสไตล์โฮมเมด ใส่ใจเรื่องวัตถุดิบเหมือนทำกินเองที่บ้าน โดยเปิดขายในเพจของร้าน จัดส่งถึงบ้านให้มาอร่อยกันได้ง่ายๆ สะดวกดีทีเดียวค่ะ สำหรับเรื่องรสชาติ ขอเม้นต์เป็นส่วนๆตามนี้เลย 🐷 หมูสะเต๊ะ - ใช้เนื้อหมูล้วนไม่ปนมัน หมักมาจนนุ่มดีทีเดียว เพราะเป็นหมูสะเต๊ะที่แม่ค้าปิ้งเองที่บ้านแบบโฮมเมด (คือใช้เตาย่างไฟฟ้า) และคงคอยพลิกคอยกลับหมูอย่างระวังมาก จึงไม่มีรอยไหม้ดำๆที่เนื้อหมูเลย สายรักสุขภาพน่าจะถูกใจแน่ๆ ในทางกลับกันการปิ้งสไตล์นี้จะไม่มีกลิ่นหอมไหม้ชัดเจนเหมือนอย่างเตาย่างถ่านแบบ open-fire เรียกว่าได้อย่างเสียอย่าง แล้วแต่ใครจะชอบสไตล์ไหน หรือถ้าใครอยากเอาหมูไปปิ้งเองเพื่อจะได้ทานตอนปิ้งเสร็จใหม่ๆ ร้านนี้ก็มีทางเลือกให้สั่งเป็นหมูดิบได้ด้วยล่ะ 🍯 น้ำจิ้ม – ทั้งรสชาติและ texture คือเข้มข้นถึงใจมาก ถั่วลิสงบดหยาบใส่มาแบบไม่หวง เคี่ยวจนเป็นเนื้อเดียวกัน รสเข้มแต่สมดุลดี ไม่หวานจัดเกินไป อร่อยดีค่ะ 🥒อาจาด - ผักสดดี น้ำส้มที่เติมแยกถุงมาต่างหาก เปรี้ยวหวานกำลังดีเลย ✅ข้อมูลพื้นฐาน✅ ➡ ทางร้านจะเปิดให้ pre-order เป็นรอบๆ สามารถติดตามได้ทาง FB page ของร้านค่ะ ➡ สั่งขั้นต่ำ 20 ไม้ ราคาไม้ละ 7 บาท หากสั่งแบบเอาไปปิ้งเอง ราคาไม้ละ 6 บาท ➡ เพิ่มน้ำจิ้ม ขีดละ 12 บาท ➡ ค่าส่งคิดตามระยะทาง ➡ ถ้าสั่ง 100 ไม้ขึ้นไป ส่งฟรีตามรถไฟฟ้าสายสีม่วงค่ะ ===================================== For those who want to enjoy some healthy, homemade pork satay at home – “Ratina Satay Pork by Ratina Homestay” can be a convenient choice. The pork is all lean meat marinated until tender. The sauce is thick with coarsely ground peanuts and has intense flavor. Fresh cucumber, red onions, and chilies in vinegar adds a refreshing touch to this meaty snack. 🔥 Because their satay pork is homemade, the grill they use is home-style electric grill. On the plus side, it’s healthier since the pork is not charred. On the down side, you won’t get that smoky aroma like open-fire grill. So, it’s a good thing that they also have an option to deliver raw, grill-it-yourself satay pork for those of you who like to eat satay fresh from your own grill. ✅Practical Information✅ ➡ Pre-order at their FB page. ➡ Minimum order is 20 sticks of pork satay ➡ Price : 7 Bht per stick for ready-to-eat satay / 6 Bht per stick for “grill-it-yourself” satay ➡ The satay sauce and sides are already provided. However, if you want to order more sauce, the price is 12 Bht/100 gm. ➡ Delivery fee is calculated by distance. ➡ Order more than 100 sticks, free delivery along MRT purple line. ==================================== 📞 Tel. 081 449 2166 📱 FB: https://m.facebook.com/Ratina-Satay-Pork-by-Ratina-Homestay-107567531208470/
ปุ๊.สุกี้ - ร้านสุกี้เจ้าดังย่านคลองสานร้านนี้เปิดมานานกว่า 20 ปี เป็นสุกี้โบราณสไตล์กึ่งไทยกึ่งจีน น้ำจิ้มผสมเต้าหู้ยี้ใส่พริก กระเทียม เสิร์ฟแบบพร้อมทานจานต่อจาน หรือถ้ามาหลายๆคนก็สามารถสั่งเป็นเซ็ตได้ ตัวร้านอยู่ริมถนน ช่วงระหว่างปากซอยเจริญนคร 19 และ เจริญนคร 21 เป็นร้านห้องแถวไม่ติดแอร์แต่กว้างขวางดี พอได้ที่นั่งแล้วก็สั่งกันเลยค่ะ ➡ เลือกสุกี้น้ำ / สุกี้แห้ง เครื่องสุกี้ที่นี่นอกจาเนื้อสัตว์แล้วก็จะมีวุ้นเส้น ผักกาดขาว ต้นหอม ขึ้นฉ่าย แบบเดียวกับสุกี้ทั่วๆไป เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การใช้น้ำซุปกระดูกหมูอย่างดีทำให้มีความอูมามิแฝงอยู่ ซึ่งใครชอบซดน้ำซุป สั่งแบบสุกี้น้ำก็น่าจะดี แต่แม้เราจะสั่งสุกี้แห้งทางร้านก็จะมีน้ำซุปใส่ขลุกขลิกมาด้วย ไม่ได้ผัดแห้งไปเลยแบบร้านสุกี้อื่นๆนะคะ ➡ เลือกเนื้อสัตว์ : เนื้อวัว / เนื้อหมู / เนื้อไก่ / ปลาหมึกกรอบ ทีเด็ดของที่นี่คือทั้งเนื้อวัว หมู และไก่นั้นนุ่มละมุนสุดๆ บ่งบอกว่าผ่านการหมักมาอย่างดี ในส่วนของปลาหมึกกรอบก็ชิ้นใหญ่เต็มปากเต็มคำ แถมกรอบจริงอะไรจริง เคี้ยวสนุกสุดๆ ใครชอบเนื้ออะไรก็จิ้มสั่งไปได้เลย แต่ถ้าไม่อยากเลือกก็สั่งเอาทุกอย่างไปเลยก็ได้เช่นกันจ้า ➡ น้ำจิ้ม อันนี้ไม่ต้องเลือก เพราะมีแบบเดียวคือน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ วางไว้ทุกโต๊ะให้ตักเติมได้ตามชอบอยู่แล้ว รสชาติน้ำจิ้มหวานนำ เผ็ดตาม มีเปรี้ยวเค็มปนมาบางๆ ที่ชอบคือแม้รสหวานจะเด่น แต่เนื้อสัมผัสของน้ำจิ้มดีงาม ไม่ได้ข้นหนืดเหนียวคอแบบน้ำจิ้มสำเร็จรูป แถมยังได้รสเต้าหู้ยี้เต็มๆ เวลาใส่น้ำจิ้มต้องระวังนิดนึง ถ้าหนักมือไปก็จะหวานเกินงามไป ส่วนตัวใช้วิธีจิ้มเนื้อสัตว์ในน้ำจิ้ม ค่อยๆปรุงรสทีละคำไม่ได้เทน้ำจิ้มสุกี้ลงคลุกในจานทั้งหมด ก็จะอร่อยกำลังพอดีค่ะ สำหรับสุกี้แบบจานเดียวราคาจะอยู่ในช่วง 70-90 บาท อาจจะดูราคาสูงกว่าสุกี้ตามร้าน street food ทั่วไปอยู่บ้าง แต่เทียบกับรสชาติ คุณภาพวัตถุดิบ และความประณีตในการปรุงแล้วก็ถือว่าพอสมเหตุสมผล แวะมาทานกันได้บ่อยๆล่ะค่ะ #Rettyhappyjan
Tonkin Annam (ตงกิง อันนัม) – ร้านอาหารในตึกแถวเล็กๆย่านท่าเตียนนี้มีเจ้าของเป็น 3 พี่น้องชาวเวียดนาม นำเสนออาหารของเวียดนามทางภาคเหนือและภาคกลางเป็นหลัก นอกจากรสชาติจะเป็นเวียดนามต้นตำรับแท้ๆแล้ว เรื่องความอร่อยยังจัดได้ว่ายืนหนึ่งแบบหาร้านอื่นๆเทียบได้ยาก การันตีด้วยรางวัลทั้ง Wongnai Users’ Choice 2020 และ Michelin Plate 2020-2021 เลยล่ะค่ะ ****-ข้อมูลพื้นฐาน-**** ✅ ร้านจะจัดระบบโดยการแบ่งเป็น 2 ส่วน รับลูกค้าจองส่วนหนึ่ง รับลูกค้า Walk-in ด้วยอีกส่วนหนึ่ง ถ้าไปช่วงวันธรรมดาที่ลูกค้าไม่หนาแน่นมาก หรือไปช่วงที่ไม่ตรงกับ peak hours จะ walk in ก็รอไม่นาน แต่ถ้าเป็นวันหยุดก็ควรจองไปก่อน โดยทางร้านจะมีคิวจองยาวพอสมควร ต้องวางแผนล่วงหน้าแล้วโทร.จองเนิ่นๆ ไม่งั้นโต๊ะจองจะเต็มนะคะ สำหรับคนที่ walk in ทางร้านจะมีตารางคิวแปะหน้าร้าน ไปถึงปุ๊บไปลงชื่อ ลงจำนวนคน เขียนเบอร์โทร ต่อคิวไว้ได้เลย พอถึงคิวทางร้านจะโทร.ตามเองค่ะ ✅ ทางร้านมีการกำหนดเวลาทานด้วย ไม่แน่ใจว่า fix เวลาตายตัว หรือยืดหยุ่นตามจำนวนลูกค้า สำหรับตอนที่เราไปจะราวๆชั่วโมงครึ่งนะ ✅ การสั่งอาหารต้องอย่างน้อย 1 คน : 1 อย่างขึ้นไป และควรสั่งในคราวเดียวไปเลยตั้งแต่แรกค่ะ ****-เมนูที่สั่ง-**** ➡️ แนมเหนือง (310 บาท) ก็คือแหนมเนืองนั่นเอง จะแตกต่างจากแหนมเนืองที่เราคุ้นเคยตรงแป้งห่อที่เป็นแผ่นบางเชี้ยบ บางยิ่งกว่ากระดาษซะอีก เวลาจะทานไม่ต้องแช่น้ำ เอาแป้งกรอบๆนั่นล่ะห่อหมูห่อเครื่อง พอเข้าปากแป้งที่กรอบๆนั้นก็จะละลายในปากเอง นอกจากแผ่นแป้งแล้ว ในชุดยังมีเส้นหมี่ให้ด้วยนะคะ สำหรับ “ทีเด็ด” ของจานนี้ที่ทำให้ประทับใจนั้นมีตั้งแต่เนื้อหมูที่นุ่มละมุน สัดส่วนเนื้อติดมันกำลังดี ไม่ผสมแป้ง และหอมกลิ่นย่างถ่านกรุ่นเลยทีเดียว ในส่วนของพริกก็ใช้พริกดองอมเปรี้ยวอมเผ็ด น้ำจิ้มเบสเป็นถั่วและเต้าเจี้ยว เข้มข้น แต่ไม่หวานจัดและไม่เผ็ดแบบแหนมเนืองบ้านเรา เป็นความอร่อยที่ละเมียดขึ้นอีกระดับเลยล่ะ ➡️ บั๋นห์แบ่ว (240 บาท) เสิร์ฟมาเป็นถ้วยเล็กๆแบนๆ 8 ถ้วย ใส่แป้งข้าวจ้าวนึ่งที่ดูแล้วแอบนึกถึงจุ๋ยก๊วย แต่ว่าแป้งบั๋นห์แบ๋วนี้นุ่มกว่ามาก เอาเข้าปากแทบจะลื่นไหลลงคอได้แบบขนมลืมกลืนเลย ด้านบนท็อปมาด้วยแคปหมูกรอบๆ หมูสับ และต้นหอม ราดน้ำจิ้มที่มีกลิ่นน้ำปลาแต่ไม่เค็มจัด มีความเหนียวข้น หวานเล็กน้อย และมีส้มจี๊ดมาให้บีบใส่แทนมะนาว ให้รสเปรี้ยวละมุนแบบผู้ดี และหอมได้ใจมากๆ เมนูนี้สำหรับเราคือปลื้มปริ่มสุดๆค่ะ ➡️ ขนมเบื้องเวียดนามแป้งกรอบ (280 บาท) ขนมเบื้องญวนที่เราคุ้นเคยกัน แต่จัดเต็มด้วยไส้ที่มีทั้งถั่วงอก หมูสับและกุ้งตัวตู้มๆ ในส่วนของน้ำจิ้มหรืออาจาดจะข้นๆ รสกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมแตงกวา แต่รสชาตินุ่มนวลกว่าแบบของบ้านเราที่ใช้น้ำส้มสายชูใส่น้ำตาลเอาน่ะนะ ➡️ สลัดหัวปลี (220 บาท) จริงๆอยากเรียกว่ายำหัวปลีมากกว่าสลัด เพราะมีเปรี้ยว มีเผ็ดแบบยำเลย เพียงแต่ไม่จัดจ้านรุนแรงแบบยำไทย และใช้ส้มจี๊ดปรุงรสเปรี้ยวแทนมะนาวอีกเช่นเคย ใส่กุ้งตัวใหญ่บึ้มและหมูสับคลุกเคล้ากับหัวปลีเข้ากันดี ทานกับแผ่นข้าวเกรียบกรอบๆที่ปักมาแผ่นโตคือลงตัวเลย ➡️ ชาส้มจี๊ด (80 บาท) อารมณ์คล้ายชามะนาวแต่ใช้ส้มจี๊ด กลิ่นหอมมากๆ รสชาติอมเปรี้ยวอมหวานสดชื่น ชอบค่ะ ในภาพรวมคืออร่อยถูกใจทุกจาน เด็ดจริงสมกับชื่อเสียง การปรุงรสชาติมีความละเมียดละไม ดีเทลประณีตแบบเห็นความแตกต่างจากร้านอื่นๆชัดเจน วัตถุดิบเน้นคุณภาพ ไม่แปลกใจที่ร้านจะได้รับความนิยมสูง แม้จะต้องรอคิวและมีกฏเกณฑ์ต่างๆบ้างก็คุ้มที่จะจัดนะคะ #Rettyhappyjan
แวะมาอีกครั้งกับร้านกาแฟของเหล่าบาริสต้าสายแข่งที่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ในซอยเล็กๆติด BTS พญาไท ภายในร้านยังคงตกแต่งด้วยสไตล์ Industrial เท่ห์ๆเหมือนเดิม แต่มีการบริหารพื้นที่ให้ดูโปร่งตา นั่งสบายขึ้น ดูเมนูครั้งนี้นอกจากกาแฟสไตล์ Creative coffee ที่เป็น Signature ของร้านหลากหลายเมนูแล้ว ยังมีเมล็ดกาแฟ Competition Series ให้เลือกสั่งด้วย เลยลองไปอย่างละแก้วตามนี้เลย [Competition Series] ➡️ Colombia, La Esperanza (ผู้ผลิต) – Cerro Azul (ไร่กาแฟ) G.X.O. Natural Process (Geisha) Tasting Notes (Black) : Kyoho Grape / Green Apple / Chocolate Raisin / Star Anise เมล็ดกาแฟสายพันธุ์ Geisha นั้นเป็นที่รู้กันดีว่ามีรสชาติออกแนว Fruity เด่นชัด ยิ่งเป็น Natural Process ก็ยิ่งดึงคาแร็กเตอร์ของเมล็ดกาแฟออกมาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับแก้วนี้สั่งแบบ Hot Black (Espresso-based) ชิมดูรสชาติคือเปรี้ยวนำ tasting notes ชัดมาก ด้วยรสเปรี้ยวแบบแอ๊ปเปิ้ลเขียวและองุ่น ผสมกลิ่นรสของลูกเกดและโป๊ยกั๊กบางๆ รวมๆกันแล้วให้อารมณ์กึ่งกาแฟกึ่งไวน์เลยทีเดียว [Signature Menu] ➡️ Gingerbread Latte (120 บาท) ไม่เคยผิดหวังกับ Creative Coffee ของที่นี่ ซึ่งกับกาแฟร้อนแก้วนี้ก็เช่นกัน ผสมผสานรสชาติของขนมปังขิงเข้ากับฟองนมมันๆและกาแฟหอมๆได้อย่างประณีตละมุนลงตัว ชอบมากค่ะ [Pastry] ➡️ Apple Danish (120 บาท) แป้ง pastry ของชิ้นนี้ออกแนวนิ่มๆ ไม่ค่อยมีชั้นสวยๆเท่าไหร่แต่ก็หอมเนยดี ส่วนตัวชอบให้กรอบนอกนุ่มในแป้งซ้อนชั้นกว่านี้ รสชาติของแอ๊ปเปิ้ลเชื่อมที่ใส่มาด้านบนอร่อยใช้ได้ค่ะ โดยรวมก็ยังเป็นหนึ่งในร้านกาแฟ Specialty Coffee ที่คุณภาพสูง (แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย) เหมาะกับคอกาแฟตัวจริงที่สนุกกับการหาประสบการณ์ชิมกาแฟในรูปแบบและสายพันธุ์ต่างๆกันไป รวมถึงเมล็ดกาแฟหายากที่ไม่ได้มีทั่วๆไปด้วย แวะไปลองกันได้ค่ะ #Rettyhappyjan
คาเฟ่เก๋ๆย่านท่าเตียนร้านนี้เป็นเครือเดียวกับ It Happened to be a closet ค่ะ เป็นร้านที่สะดุดตาเราทั้งชื่อร้านเท่ๆและบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงร้านในต่างประเทศเลย ตู้ขนมหน้าร้านนั้นเรียงรายไปด้วยเค้กหลากหลายชนิดละลานตา แต่ทางร้านแนะนำว่าตัวนี้เป็น signature ของร้านค่ะ ลอนตาล Custard Salted Choc (185 บาท) - เจ้ากรรมว่าตรงโต๊ะที่เรานั่งนั้นเปิดไฟนีออนสีฟ้าสลับชมพู ดูแล้วก็เก๋ๆดี แต่ทำให้ถ่ายรูปเค้กและเครื่องดื่มออกมาเป็นสีฟ้าสีม่วงไปด้วย แปลกๆหน่อยนะคะ เค้กตัวนี้ที่จริงเป็นโฟมเมอแรงค์เนื้อฟูเบาสีขาว ไส้ข้างในเป็นลูกตาล ฐานเป็นบิสกิตกรอบๆที่ด้านในมีชั้นของช็อกโกแลตทาอยู่ รสชาติโดยรวมไม่หวานเกินไป จัดว่าใช้ได้อยู่เหมือนกัน ในส่วนเครื่องดื่มสั่งเป็นกาแฟร้อน 2 แก้ว คือ Hot Americano และ Hot Cappuccino กลิ่นรสดีเลยล่ะ ร้านนี้ราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ยอมให้เพราะชอบ vibe โดยรวมค่ะ #Rettyhappyjan
ช่วงนี้ไม่อยากออกนอกบ้านบ่อยๆถ้าไม่จำเป็น สำหรับร้านนี้เลยกดสั่งทาง Line Man เอานะคะ สั่งมาลองตามนี้เลย ➡️ Butter Croissant - ผิวอาจไม่กรอบเท่าไหร่ ผ่าแล้วยวบไม่เห็นเนื้อขนมโปร่งพรุนสวยๆ แต่หอมเนยมาก ทานไปได้รสเนยเต็มๆ อร่อยดีทีเดียวค่ะ ➡️ Ham Cheese Croissant - ครัวซองต์ตัวเดิม ผ่าใส่แฮมและชีสแผ่นโต อันนี้อร่อยดีค่ะ แม้ตัวแฮมและชีสไม่ได้ grill มาให้ แต่ทานรวมๆก็รสชาติดีนะ ➡️ Almond Chocolate Croissant - ผิวชั้นนอกมีน้ำตาลโรย เลยจะกรอบกว่าครัวซองต์ปกตินิดหน่อย โรยเม็ดอัลมอนด์กรอบๆหอม ราดซอสช็อคโกแลตแล้วก็ผ่ากลาง สอดไส้ช็กโกแลตด้วย ส่วนตัวชิมแล้วแอบรู้สึกเลี่ยนนิดหน่อย กลิ่นรสช็อกโกแลตไม่ค่อยหอมแบบที่ชอบ เลยไม่ค่อยปลื้มชิ้นนี้ค่ะ ➡️ Iced Americano - กาแฟหอมกลางๆ ขมหน่อยๆ จิบเพลินดีเหมือนกันล่ะ ➡️ Iced Latte - กาแฟรสติดขอมแบบนี้ พอสั่งเมนูที่ใส่นม ใส่น้ำเชื่อมอย่างแก้วนี้ รสก็นุ่มขึ้นนะคะ #Rettyhappyjan
หมายตาร้านนี้ไว้ตั้งแต่มาเปิดที่เมืองไทยใหม่ๆ แต่แอบหวั่นใจกับคิวยาวๆ ตอนนี้ร้านมาเปิดสาขาเป็นบูธเล็กๆบริเวณ ชั้น M ของห้างสยามพารากอน ใกล้ประตูทางออกที่เชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้า แวะมาตอนเช้าคิวไม่เยอะ เลยขอลองสักแก้วค่ะ Hot Caffe Latte (แก้วเล็ก 130 บาท) - กลิ่นกาแฟนี่หอมยั่วแม้ตอนเดินผ่าน aroma มาเต็ม และไม่ขมเลย สัดส่วนกาแฟกับฟองนมคือเป๊ะ Latte Art คมกริบ ฟองนมละเอียดนุ่มละมุน ดีจริงอะไรจริง แต่ราคาก็แรงจริงเช่นกันค่ะ #Rettyhappyjan
Lady L Garden Bistro - ร้านอาหารในเครือ Nai Lert Group นี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ผู้ก่อตั้งโรงแรมปาร์คนายเลิศ concept ของร้านจึงเป็นการรวบรวมอาหารฝรั่งสไตล์โฮมเมดที่ท่านผู้หญิงได้เคยทานระหว่างเดินทางไปประเทศต่างๆแล้วชื่นชอบ และได้จำกลับมาให้เชฟของครอบครัวลองทำโดยปรับสูตรให้เหมาะกับรสนิยมของสมาชิกในบ้าน แต่ละเมนูที่เสิร์ฟในร้านนี้ได้ผ่านการคัดเลือกทั้งจากทายาทรุ่นหลานและอดีตเชฟประจำตัวของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ ซึ่งหลายๆเมนูก็เป็นอาหารที่หาทานได้ค่อนข้างยากในบ้านเรา นับว่าน่าลองทีเดียวค่ะ 🍂[Thanksgiving Delicacies]🍂 ทุกๆปีที่นี่จะมีเมนูพิเศษสำหรับช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า คริสต์มาส และปีใหม่ อยู่ 2 เมนู คือไก่งวงและขาหมูแฮม ซึ่งต้องจองล่วงหน้า สำหรับปีนี้ตามกำหนดคือมีให้สั่งตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 15 มกราคม 2564 นะคะ ส่วนใครจัดไม่ทัน ปักหมุดรอเผื่อปีหน้าไว้เลยก็ได้จ้า ➡️ Roasted Turkey with Condiments (1,500 ++ Bht/Kg) ไก่งวงอบทั้งตัว พนักงานจะมาช่วยแล่แบ่งใส่จานให้ที่ข้างโต๊ะเลย เสิร์ฟพร้อมซอสแครนเบอร์รี่ มัสตาร์ด มีเครื่องเคียงคือมันหวาน (sweet potato) / เม็ดเกาลัดเชื่อม / Baby Carrots / และ Brussels sprouts ผัดกับเบคอน ให้มาอย่างละเป็นจานๆเลย เนื้อไก่งวงอบมาได้ดี เนื้อนุ่ม หนังบางกรอบ ยัดไส้ขนมปังกับแฮม ราดน้ำเกรวี่แล้วทานกับเครื่องเคียงต่างๆเข้ากันได้ดีค่ะ 🍝[อาหารจากเมนูปกติ]🍝 ➡️ Complimentary Bread จัดใส่ตะกร้ามาให้ลองหลายแบบ ในภาพรวมคือเนื้อขนมปังดีใช้ได้ทุกอย่าง ทานเพลินเลยทีเดียว ➡️ Crab Bisque เสิร์ฟมาเป็นถ้วยที่มีแป้งพายปิดไว้ด้านบน เจาะแป้งพายลงไปเป็นซุปปูที่อร่อยมากกกก.. หอมกลิ่นปูพลุ่งขึ้นมาแบบเต็มๆ ระดับความข้นของน้ำซุปกำลังดี texture เนียนละมุนลิ้น ทานด้วยกันกับแป้งพายก็เข้ากันดีเลยล่ะ ➡️ Rocket Salad, Grilled Shrimps, Mango, Lemon Honey Dressing พระเอกของจานนี้คือกุ้งที่ย่างมาได้ดี เนื้อเด้ง หอม ผักสดดีตามมาตรฐาน น้ำสลัดก็รสชาติดีทีเดียว แต่แอบรู้สึกแปลกๆกับการใส่มะม่วงสุกหวานฉ่ำชิ้นโตๆลงไปด้วยน่ะค่ะ ➡️ Beef Wellington, Red Wine Sauce เนื้อสันในที่สุกประมาณ Medium rare ล้อมรอบด้วยชั้นของ Duxelles (เห็ดแชมปิญองสับผัดเคี่ยวกับเครื่องปรุง) คลุกกับตับไก่บด แล้วห่อหุ้มด้วยแป้งพัฟอีกที แยกซอสไวน์แดงมาให้ต่างหากไว้ราดตอนจะทาน เมนูนี้จะว่าไปแล้วค่อนข้างหาทานยาก และที่นี่ก็ทำได้ดีทีเดียว ➡️ Baked Whole Seabass with Lemon Butter Sauce ปลากะพงทั้งตัว เนื้อนุ่มละมุน หนังกรอบ ราดซอสหอมเนยหอมมะนาว รสชาติดีมากๆค่ะ จานนี้ปลื้มเลย ➡️ Homemade Angel Hair with Truffle Cream Sauce เส้น Angel Hair ลวกสุกกำลังดี คลุกซอสครีมทรัฟเฟิลเข้มข้น เรียบง่ายแต่อร่อยนะคะจานนี้ ➡️ Pavlova with Mixed Berries เมอแรงค์ไข่ขาวอบกรอบ ท็อปด้วยผลเบอร์รี่สดนานาชนิด มีซอสเบอร์รี่แยกมาให้ราดต่างหาก เนื้อเมอแรงค์ฟูเบากรอบกริ๊บ รสชาติหวานจัดตามปกติของเมอแรงค์ ทานกับลูกเบอร์รี่เปรี้ยวๆก็พอตัดรสหวานได้อยู่ค่ะ ขนมชนิดนี้อันที่จริงมีต้นกำเนิดจากประเทศนิวซีแลนด์ แต่ที่ชื่อฟังคล้ายภาษารัสเซียก็เพราะเชฟที่คิดค้นสูตรขนมนี้ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่ Anna Pavlova – นักบัลเล่ต์ชาวรัสเซียที่เดินทางไปแสดงที่โน่น โดยรูปร่างขนมที่เป็นสีขาวพองฟูนั้นก็ตั้งใจให้ดูคล้ายกับกระโปรงสุ่มที่เธอใส่เต้นบัลเลต์นั่นเอง ➡️ Sticky Toffee Pudding with Homemade Salted Caramel Ice Cream มาลองขนมของทางฝั่งอังกฤษดูบ้าง เมนูนี้บอกเลยว่าเด็ดจริง พุดดิ้งอินทผลัมเนื้อฉ่ำ ราดด้วยซอส Butterscotch ที่หอมสุดๆ หวานมันลงตัว เสริมด้วยไอศกรีมรส Salted Caramel ก็ยิ่งเข้ากันดี ปลื้มปริ่มมากมาย นอกเหนือจากอาหารแล้ว เรื่องของบรรยากาศที่นี่ก็สวยหรูดูดีสมกับเป็นรสนิยมของท่านผู้หญิง เริ่มจากสวนร่มรื่นบริเวณทางเข้า โซนที่นั่งที่แบ่งเป็นบริเวณ Glass House หลังคากระจก และห้องด้านในที่ตกแต่งสไตล์ Art Deco อย่างโก้เก๋ ผนังด้านหนึ่งประดับด้วยภาพวาดขนาดใหญ่ของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ จะมานั่งชิลล์ดื่มด่ำบรรยากาศไปยาวๆ หรือมาจัดมื้อใหญ่ในโอกาสพิเศษต่างๆก็เหมาะค่ะ #Rettyhappyjan
กล้วยทอด นะโม - กล้วยทอดเจ้าดังย่านบางขุนนนท์เจ้านี้เรามีโอกาสได้ลองก็เพราะมีคนซื้อมาฝาก แม้จะใช้เวลาในการเดินทาง ทำให้ไม่ได้ทานตอนทอดออกมาใหม่ๆร้อนๆ แต่แป้งก็ยังฟูกรอบกริ๊บอร่อยอยู่ นับว่ามีฝีมือจริงค่ะ ที่ซื้อมามีทั้งกล้วยทอด กล้วยตากทอด มันทอด เผือกทอด มันม่วงทอด ความที่แป้งดี ก็เลยอร่อยทุกอย่าง ส่วนตัวแล้วชอบกล้วยตากทอดที่สุดเลยล่ะ #Rettyhappyjan
ร้านขาหมูระดับตำนานของย่านสีลมนี้เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 กวาดรางวัลมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นเชลล์ชวนชิม Michelin BIB Gourmand และอื่นๆอีกมากมาย ชื่อเสียงดีงามขนาดนี้เราก็เลยต้องตื่นแต่เช้าไปลองกันซะหน่อยค่ะ สำหรับขาหมูที่นี่จะมีให้เลือกสั่งครบทุกส่วน ทั้งขา (เล็ก/ใหญ่) ข้อ เนื้อ หนัง ไส้ เครื่องใน ครบเครื่องสมกับเป็นร้านเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านขาหมู สำหรับมื้อนี้ฉายเดี่ยวไป เลยจัดเป็นจานนี้มาค่ะ ➡️ ขาหมูเนื้อหนัง - เนื้อหมูนุ่มละมุน น้ำพะโล้เค็มๆหวานนิดๆหอมยาจีน ความข้นกำลังดี ไม่หวานจัดข้นจัดจนเหนียวปากแบบบางเจ้า หนังหมูเปื่อยนุ่มละลายในปาก น้ำจิ้มโขลกพริกกระเทียมจัดเต็ม แซ่บเหงื่อซึม ช่วยตัดเลี่ยนและชูรสให้อร่อยยิ่งขึ้นอีก เด็ดจริงไม่ผิดหวังค่ะ #RettySanta
เป็นอีกครั้งที่ได้มีโอกาสไปทานร้านจองยากอย่าง “บ้านนวล” โดยนัดกันไปกับเพื่อนๆกลุ่มใหญ่ทีเดียว (ต้องขอบคุณ user : Yee_FullandFun ที่เป็นธุระช่วยจองโต๊ะให้เพื่อนๆได้ไปอิ่มอร่อยกันนะคะ) ครั้งนี้สั่งอาหารมาลองกันหลายเมนู มีทั้งที่เคยทานแล้วติดใจเมื่อครั้งก่อน และเมนูใหม่ที่ยังไม่เคยลอง สั่งไปตามนี้กันเลยค่ะ ****-เมนูที่สั่ง-**** ➡️ หมูก้อนทอด – หมูสับก้อนโต สัดส่วนเนื้อติดมันกำลังดี ทอดกรอบนอกนุ่มในหอมกระเทียม ปรุงรสมาแบบจะให้ทานกับข้าวอร่อยพอดี ถ้าทานเปล่าๆจะเค็มไปนิดค่ะ ➡️ ปูไข่นึ่งกระดอง - จัดเนื้อปูผสมไข่ปูมาเต็มกระดอง ผัดรวนกับต้นหอม จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดทาน ฟินมากมาย ➡️ แกงเหลืองปลากระพง – ชิ้นปลามาแบบตู้มๆ น้ำแกงรสชาติเข้มข้น เคี่ยวจนผักนุ่มเข้าเนื้อ รสชาติหวานนำเผ็ดตามค่ะ ➡️ กุ้งผัดมันกุ้งสูตรมหาชัย – เมนูโปรดที่ติดอกติดใจมาตั้งแต่ที่ไปทานคราวที่แล้ว ครั้งนี้ก็ยังเด็ดจริงไม่มีพลาด กุ้งตัวโตสดเด้ง ผัดมันกุ้งหอมๆรสชาติกลมกล่อม คลุกข้าวสวยร้อนๆทานคือปลื้มปริ่มสุดๆเลย ➡️ แกงคั่วปลาดุก – แกงคั่วกะทิเข้มข้น แตกมันนิดหน่อยกำลังสวย ใส่เนื้อปลาดุกและใบชะอม ทานเพลินทีเดียว ➡️ ไข่คั่วทะเล – เมนูนี้เอาทั้งกุ้งตัวโตและปลาหมึกชิ้นตู้มๆมาผัดรวนกับไข่ ใส่มะเขือเทศสด รสชาติอ่อนๆกลมกล่อม ทานกับซอสพริกเข้ากันดีมากๆ ➡️ กุ้งสับผัดพริกขี้หนู – เนื้อกุ้งล้วนๆ สับมากำลังพอดีคำทานง่าย ผัดรวนกับพริกขี้หนูสวนหอมๆและกระเทียม เผ็ดกลางๆ อร่อยค่ะ ➡️ ซี่โครงหมูย่างต้มพะโล้ – ซี่โครงหมูย่างเนื้อเปื่อยละมุนเลาะทานง่าย ต้มพะโล้รสเค็มหวานกำลังดี เป็นอีกเมนูที่ดีใช้ได้นะ ➡️ หมึกผัดกระเทียมพริกไทย – จานนี้เราชอบที่เนื้อปลาหมึกมาแบบชิ้นโตๆ บั้งสวย แถมนุ่มมาก ผัดกระเทียมพริกไทยหอมๆ รสชาติกำลังเป๊ะเลย ➡️ ก้านคะน้าปลาเค็ม – เราชอบที่ก้านคะน้านั้นคัดมาแต่ที่อ่อนๆอวบๆจริงๆ ปอกเปลือกนอกออกเหลือแต่ความกรุบกรอบที่ไม่มีเสี้ยนกวนใจ ผัดใส่ปลาเค็มง่ายๆก็ออกมาลงตัว ➡️ หมูสามชั้นผัดกะปิสะตอ – จะว่าไปเมนูนี้ก็คือผัดสะตอนั่นเอง แต่ใช้หมูสามชั้นแทนกุ้ง ใส่เนื้อหมูพูนๆจนเห็นสะตอนิดเดียว รสชาติเข้มข้นเผ็ดจัดจ้านหอมกะปิค่ะ ➡️ กะเพราหมูสับ – เมนูง่ายๆ แต่ทำแบบปราณีตใส่ใจ เนื้อหมูสับติดมันนิดหน่อย เนื้อนุ่มละมุน ผัดกระเพรามาแบบรวนแห้ง ไม่ใส่ถั่ว ไม่ใส่ซีอิ๊วดำ เค็มนิดๆ เผ็ดกลางๆ ดีใช้ได้อยู่นะ สำหรับการจองร้านนี้ต้องส่ง message จองทาง IG ของร้านเท่านั้น (@baannual372) แม้จะจองยาก แต่ถ้าชอบอาหารวัตถุดิบดีๆ รสชาติแบบไทยแท้ๆเข้มข้น บรรยากาศเหมือนได้ไปนั่งทานข้าวบ้านเพื่อน ก็ลองหาโอกาสลองดูนะคะ #RettySanta
Sofuto Cream เป็นร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าดังของเชียงใหม่ที่มีเมนูหลากหลายน่าลองทั้งคากิโกริ ซอฟท์ครีม แพนเค้กซูเฟล่ และไดฟูกุสารพัดไส้ โดนใจสายขนมญี่ปุ่นล่ะค่ะ ปัจจุบันนอกจากสาขาแรกที่หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่แล้ว ร้านยังมาเปิดสาขาที่สองที่โครงการ Nim City Daily นี้อีกด้วย สาขานี้เมนูไม่ครบถ้วนเท่าสาขาแรก แต่เพราะสะดวกใกล้ที่พัก เราจึงขอแวะมาซะหน่อยนะ 🍦Fresh Yogurt Soft Cream - ซอฟท์ครีมของที่ร้านมีให้เลือก 3 รสคือ Fresh Yogurt, Kyoto Matcha และ Hokkaido Fresh Milk แต่รสยอดนิยมที่ทางร้านแนะนำก็คือรส Fresh Yogurt นี่ล่ะ เราสั่งแบบใส่โคนมา เนื้อ Soft Cream คือดีงามมาก เนียน-นุ่ม-แน่น และได้รสโยเกิร์ตมาแบบเต็มๆอมเปรี้ยวอมหวานกำลังดี โคนก็ทั้งกรอบทั้งหอม ถูกใจเลยทีเดียว เอาจริงๆเราชอบมากกว่า Kakigori ที่เคยลอง (เมื่อนานมาแล้ว) ซะอีกค่ะ #SantaCafe
Patisserie Rosie – Tea room เล็กๆในซอยทองหล่อ 10 นี้นำเสนอขนมเค้กสไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัยจากฝีมือของคุณแชมป์ พานิชกุล – เชฟชาวไทยที่ทำขนมได้ประณีตละเอียดอ่อนทั้งในแง่รสชาติและหน้าตา ทำเอาเราต้องไปยืนเกาะตู้ขนมเลือกอยู่เป็นนานสองนาน เพราะน่าทาน น่าอร่อยไปซะทุกชิ้น จนได้เลือก 2 ชิ้นนี้มาลองกันค่ะ 🎂- ขนม-🎂 ➡️ Cherry Ripe (230-) : Marello cherry mousse with cherry compote, dark chocolate ganache, chocolate sponge and almond streusel. ขนมเค้กรูปลูกเชอร์รี่สีแดงก่ำแวววาวนี้ดูจะเป็น signature ของร้านนี้ไปแล้ว เบสของขนมเป็น almond streusel กรอบหอม ไส้ในของลูกเชอร์รี่มีเค้กสปันจ์รสช็อกโกแลตเข้มข้นเนื้อนุ่มฉ่ำ ท็อปด้วย dark chocolate ganache และเนื้อเชอร์รี่กวน ขึ้นรูปชั้นนอกด้วยมูสเชอร์รี่เนื้อเนียนเบา ได้รสอมเปรี้ยวอมหวานสดชื่นตัดกับรสเข้มๆของช็อกโกแลต ทานแล้วแอบนึกถึงเค้ก Black Forest ที่ยกระดับรสชาติให้มีดีเทลซับซ้อนขึ้นและไม่ใส่เหล้า อร่อยสุดๆสมกับที่เป็นชิ้นเอกของร้านเลยล่ะ ➡️ Mandarin (280-) : Mandarin mousse with vanilla supreme, marmalade, jelly, almond sponge, and Breton crust. ขนมที่ทำออกมาเหมือนผลส้มเป๊ะ นำเสนอความเป็นส้มในหลายรูปแบบ ทั้งขึ้นรูปด้วยมูสรสส้มผสมวานิลลา สอดไส้แยมส้ม ตรงฐานมีเยลลี่วางอยู่บนเค้กสปันจ์อัลมอนด์ ชั้นล่างสุดเป็น Breton crust กรอบๆ – เพราะใช้ส้มแมนดารินที่มีรสหวานเป็นวัตถุดิบ แถมยังเคลือบด้านนอกด้วย White Chocolate อีก ทำให้ภาพรวมขนมชิ้นนี้ค่อนข้างหวานจัดทีเดียว เหมาะกับสายหวานที่แท้ทรูนะคะ ☕-เครื่องดื่ม-☕ ➡️ Hot Americano (110-) กาแฟร้อนที่นี่ค่อนข้าง full bodied หอม เข้ม ติดขมประมาณนึง ซึ่งเป็นสไตล์ที่เหมาะจะจิบกับขนมหวานๆดีค่ะ ➡️ Tie Guan Yin (180-) ที่นี่จะมีทั้งชาฝรั่งและชาจีน เข้ากับ concept ของร้านที่มีการผสมผสานแบบ East meets West ทั้งในแง่ของการครีเอทรสชาติขนมและการตกแต่งร้าน ทราบมาว่าในส่วนของชาจีนนั้นทางร้านรับมาจากร้านชา Double Dogs เลยทีเดียว เรื่องคุณภาพใบชาจึงเชื่อได้ว่าดีงามสมราคา จัดเสิร์ฟมาแบบกงฟูฉาสไตล์จีนดั้งเดิม อย่างชาทิกวนอิมตัวนี้นี่ล่ะ นอกจากขนมหวานแล้ว ทราบมาว่าทางร้านยังมีของคาวให้บริการ รวมถึงมีชุด Afternoon tea สำหรับคนที่อยากจัดเต็มด้วย ถ้ามีโอกาสคงต้องกลับไปลองอีกบ่อยๆเลยค่ะ #SantaCafe
PARADAi – ร้านช็อกโกแลตแบรนด์ไทยที่คว้ารางวัลระดับโลกมาได้นี้นอกจากจะใช้ช็อกโกแลตคุณภาพสูงแล้ว ยังมีความคิดสร้างสรรค์ในการครีเอท Chocolate Bon Bon ชิ้นพอดีคำที่อัดแน่นด้วยหลากหลายรสชาติ ทั้งรสชาติคลาสสิกและรสชาติที่แฝงวัตถุดิบอาหารแบบไทยๆลงไป กลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นที่น่าลองทีเดียวค่ะ กับครั้งนี้เพื่อนแวะไปร้านสาขาแรกที่ถนนตะนาวแล้วอุตส่าห์ซื้อมาให้ชิม เราเลยได้ลองไป 4 รสชาติตามนี้เลย - Macadamia Coffee Caramel - Raspberry & Roselle - Salted Caramel - Galanga (ข่า) & Yuzu ชิมดูแล้ว chocolate shell ที่เป็นเปลือกนอกนั้นใช้โกโก้เปอร์เซ็นต์ค่อนข้างสูง เข้มข้น หอม การ temper ช็อกโกแลตทำได้ดีผิวเงาวับกัดดังเป๊าะ เคลือบเป็นชั้นบางเฉียบ ฝีมือไม่แพ้ร้านช็อกโกแลตในต่างประเทศ ในส่วนของไส้นั้นรสชาติค่อนข้างชัดเจน ถ้าเลือกรสได้ถูกจริตคนทานก็น่าจะฟินแน่นอน ส่วนตัวแล้วชอบ Macadamia Coffee Caramel และ Raspberry & Roselle มากที่สุดค่ะ #SantaCafe
Toby’s – คาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นในซอยสุขุมวิท 38 นี้ เสิร์ฟ All day brunch สไตล์ออสซี่ กับกาแฟดีๆเทียบชั้น specialty coffee กับครั้งนี้เราแวะไปช่วงบ่ายแก่ๆ เพื่อจัดของว่างเบาๆและจิบเครื่องดื่มกันชิลล์ๆค่ะ ☕️ [กาแฟ] มีเมล็ดกาแฟ 2 เบลนด์ให้เลือก คือ Toby’s และ Bryce’s ในเมนูเขียนระบุ tasting notes ไว้ชัดเจน ค่ะ เราสั่งไปตามนี้เลย ➡ Long Black + Toby’s Tasting Notes : Grapefruit, Hint of Flower, High Acidity ➡ Long Black + Bryce’s Tasting Notes : Lemon Peel, Brown Spice, Hint of Flower ➡ Magic + Toby’s Tasting Notes : Sweet, Smooth, Caramel-like กาแฟที่นี่ดีมาก หอมกรุ่น รสชาติชัดเจน aftertaste สดชื่น ส่วนตัวแล้วสำหรับ Long Black เราชอบ Bryce’s มากกว่า Toby’s นิดนึงเพราะรู้สึกว่ามีรสชาติที่ลุ่มลืกกว่า แต่พอมาเป็นเมนูที่ใส่นมอย่าง Magic จะชอบ Toby’s มากกว่า เพราะรู้สึกว่าฟองนมนุ่มๆนั้นสมดุลกับความเปรี้ยวแหลมสดชื่น ทำให้ออกมาลงตัวกว่า ซึ่งความชอบก็แต่ละคนก็ต่างๆกันไปนะคะ ➡ Iced Mocha แก้วนี้จำไม่ได้ว่าต้องเลือกเบลนด์กาแฟมั๊ย เพราะรสชาติเน้นช็อกโกแลตมากกว่ากาแฟ อร่อยเข้มข้นดีค่ะ 🥗 [อาหาร] ➡ GRANOLA (Granola/Honey/Cinnamon Greek Yoghurt/Fresh Fruits/Berries) Granola ที่นี่ทั้งกรุบกรอบและหอมแบบชิมแล้วรู้เลยว่าต้องอบมาใหม่ๆแน่ๆ ทีเด็ดคือ Cinnamon Greek Yoghurt ที่เนื้อดีจริงๆ มีความเซ็ตตัวแบบ strained yoghurt เนื้อเนียนละเอียด ครีมมี่แต่ฟูเบาคล้ายครีมหน้าเค้ก ไม่แน่ใจว่ามีการเอาโยเกิร์ตไปวิปก่อนเสิร์ฟด้วยหรือเปล่า ทานกับผลไม้สดๆที่โรยมาคือดีงามมากๆ เลิฟสุดๆค่ะชามนี้ แม้ราคาอาหารจะค่อนข้างแรง แต่พอชิมแล้วก็เข้าใจว่าทำไมร้านนี้ถึงยืนอยู่ในระดับท็อปของสายคาเฟ่มาได้ยาวนาน ทุกเมนูที่สั่งมานั้นทั้งรสชาติและวัตถุดิบดี มีความปราณีตสูง ปัจจุบันร้านขยายไปเปิดสาขาที่ศาลาแดงด้วย สะดวกสาขาไหนก็แวะไปลองกันได้ค่ะ #SantaCafe
Divana Signature Café – เมื่อสปาแบรนด์ดังมาเปิดร้านคาเฟ่ concept ของร้านจึงเป็นการนำเสนอความน่ารื่นรมย์แบบองค์รวมด้วยการจำลองบรรยากาศเสมือนอยู่ในป่าร่มรื่น เพียบพร้อมด้วยไม้ดอกไม้ประดับ และกลิ่นหอมจาก Aroma oil ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศบางๆ เปิดเพลงเบาๆ ควบคู่ไปกับเมนูอาหารทั้งคาวหวาน แถมยังมี Hand Cream หอมๆวางไว้ทุกโต๊ะ ถ้าลองแล้วชอบยังสามารถออกมาซื้อได้ด้านหน้าร้านอีกด้วย สำหรับครั้งนี้แวะไปจัดมื้อเบาๆละเลียดขนมกันไปค่ะ • Basque Burnt Cheesecake (180++) - ขนมยอดฮิตของปีนี้ที่แทบทุกร้านต้องมี ของร้านนี้ present มาแบบอลังการ โดยวางจานขนมไว้บนถาดน้ำแข็งแห้ง พอยกมาเสิร์ฟพนักงานก็จะเทน้ำให้ควันพวยพุ่งเหมือนมีเวทย์มนตร์เลย texture ของชีสเค้กที่นี่จะแข็งๆแน่นๆกว่าของร้านอื่นๆที่เคยทาน แต่พอเคี้ยวก็มีความละลายในปากคล้ายได้ทานชีสจริงๆ แถมรสชีสนี่มาเต็มสะใจ เดาว่าชนิดของชีสที่เลือกใช้น่าเป็นพวก semi hard หรือ hard cheese เลยทำให้ได้เนื้อขนมแบบนี้ ทานกับผลไม้สดที่แต่งมาด้านบนก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ดีนะคะ • Hot Cappuccino (110++) – ฟองนมละเอียดนุ่ม สัดส่วนฟองนมกับกาแฟพอเหมาะ กาแฟเบลนด์กลิ่นรสกลมกล่อมนุ่มนวล ไม่เปรี้ยว ไม่ขม มีกลิ่นแฝงแบบ tobacco เบาๆ จิบเพลินดีทีเดียวค่ะ #SantaCafe
Cheevit Cheeva Fine Desserts – ร้านดังจากเชียงใหม่ที่โดดเด่นเรื่องเมนูขนมหวานและเครื่องดื่มเย็นๆเพิ่มความสดชื่นมีชิวิตชีวาสมกับชื่อร้าน ครั้งนี้เราไปที่สาขา Siam Square One ซึ่งเป็นร้านเล็กๆที่คนแน่นตลอด สั่งมาลองตามนี้เลย 🍮ไข่มุกคัสตาร์ด & ซอสมัชฉะ (125 บาท) – เสิร์ฟมาแบบเลอะเทอะนิดหน่อย คัสตาร์ดเนื้อนุ่มๆหอมหวาน โรยไข่มุกนุ่มๆหนึบๆเคี้ยวสนุก ซอสมัชฉะที่แยกให้มาเทเองนั้นคือชา matcha ที่ชงเข้มข้นมากๆและไม่แต่งรสหวานเลย ได้กลิ่นรสชาเต็มๆและมีความขมจัดที่บาลานซ์กับความหวานของคัสตาร์ดได้ดีค่ะ 🥤น้ำผึ้งมะนาว เลมอนเนด (85 บาท) – เป็นน้ำมะนาวโซดาผสมน้ำผึ้ง ได้รสน้ำผึ้งชัด โซดาเยอะ แต่รสน้ำมะนาวน้อยไปหน่อยนะ ราคาขนมที่นี่ไม่มี ++ เพิ่ม ดังนั้นแม้การบริการจะดูเร่งๆและไม่ค่อยช่วยเหลือลูกค้าหรืออธิบายเมนูเท่าไหร่นัก ก็เลยไม่ถือสาล่ะค่ะ ใครชอบขนมแนวนี้ก็มาจัดกันได้เรื่อยๆเลยน้า #SantaCafe
สมศักดิ์ปูอบ - ร้านเก่าแก่กว่า 30 ปีร้านนี้ด้วยชื่อเสียงแล้วจัดได้ว่ายืนหนึ่งในวงการปูและกุ้งอบวุ้นเส้น กวาดมาแล้วทุกรางวัลตั้งแต่เชลล์ชวนชิม เปิบพิสดาร Wongnai Users’ Choices และ Michelin BIB Gourmand (สาขาเจริญรัถ) ร้านดั้งเดิมสาขาแรกนั้นเป็นเพียงรถเข็นริมทางในซอยเจริญรัถ วางโต๊ะ-เก้าอี้กันบนฟุตบาทแบบ street food แท้ๆ ปัจจุบันร้านขยายสาขาเพิ่มไปอีก 3 สาขาคือ ถนนกรุงธนบุรี ลาดหญ้า และเพชรเกษมค่ะ ✅ สำหรับครั้งนี้เราเลือกมาที่สาขาลาดหญ้า ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันกับสาขาแรก แต่มีข้อดีที่เป็นห้องแถวติดแอร์ นั่งสบายกว่ากันเยอะเลย ✅ เมนูในร้านมีเพียง 4 อย่างเท่านั้น คือปูอบวุ้นเส้น (มีทั้งปูเนื้อและปูไข่ให้เลือก) / กุ้งอบวุ้นเส้น / หอยแมลงภู่อบ / หอยแครงลวก เราสั่งมา 2 อย่างนี้ค่ะ 🦀 ปูอบวุ้นเส้น (380-) เลือกเป็นปูเนื้อ ราคาก็ตามน้ำหนักค่ะ (เล็กสุดคือ 310-) ทางร้านใช้ปูทะเลเป็นๆสดกิ๊กจากมหาชัย ทุบเปลือกมาให้แกะง่าย เสิร์ฟใส่หม้อร้อนควันฉุยมาเลย เนื้อปูคือดีงาม ทั้งแน่นทั้งหวาน ทีเด็ดคือวุ้นเส้นที่ทางร้านสั่งพิเศษเน้นส่วนผสมของถั่วเขียวมากกว่าแป้ง จึงมีความเหนียวนุ่มไม่ติดเป็นก้อนและไม่อืด เวลายกมาถึงโต๊ะให้รีบคลุกวุ้นเส้นกับเครื่องปรุงก้นหม้อให้ทั่วๆก่อนตอนยังร้อนๆ ทานกับต้นหอม จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของทางร้านคืออร่อยเหาะไปเลย 🦐 กุ้งอบวุ้นเส้น (290-) ใช้กุ้งทะเลบิ๊กไซส์ใหญ่ตู้ม ใส่มาให้ 3 ตัว เนื้อกุ้งทั้งแน่นทั้งเด้งเต็มปากเต็มคำ เครื่องปรุงต่างๆก็แบบเดียวกับเมนูแรกนั่นล่ะ อาหารที่นี่ทำมาให้ทานเปล่าๆแบบไม่ต้องมีข้าวเลย เมนูอบวุ้นเส้นจึงไม่มันหรือเลี่ยนมากจนเกินไปแบบร้านอื่นๆ (แม้ว่าจะใส่มันหมูที่ก้นหม้อด้วยก็เถอะ) ซึ่งเป็นอะไรที่ถูกใจเรามากเลยทีเดียว ✅ สำหรับคนที่ชอบวุ้นเส้น ที่นี่มี option ให้สั่งเพิ่มวุ้นเส้นเป็นพิเศษด้วยนะ (แต่ของเราสั่งแบบปกติ ไม่ได้เพิ่มวุ้นเส้นก็อิ่มแล้วค่ะ) 🎉🎉 เฉพาะที่สาขาลาดหญ้านี้ ร้านเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งด้วยนะจ๊ะ รีบไปใช้กันได้ #SantaTasty
ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า เป็นอาหารจานเดียวที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน แล้วแพร่หลายมายังเมืองไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยแต่ละที่ก็มีการปรับสูตร ปรุงรสต่างๆกันไป สำหรับภัตตาคารจ๊ากกี่ ร้านเก่าแก่เจ้าดังของย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินี้มีเมนูเด็ดเป็นราดหน้าสไตล์กวางตุ้ง แต่เดิมร้านนี้เคยอยู่ที่เยาวราช ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ซอยวัฒนโยธินเป็นเวลากว่า 30 ปีจนถึงปัจจุบัน การันตีฝีมือด้วยรางวัลต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น Michelin BIB Gourmand, เชลล์ชวนชิม ไปจนถึง Wongnai Users’ Choice 2020 นี้ด้วย ดังนั้นแม้จะเป็นร้านที่คนแน่น-คิวยาว และต้องใช้ความอดทนในการรอคอยมากหน่อย แต่ก็ต้องจัดล่ะค่ะ ✅ เมนูอาหาร ✅ แบ่งเป็น 2 ตระกูลใหญ่ๆ คือราดหน้าและบะหมี่เกี๊ยว / ปู / หมูแดง ค่ะ ✅ ตัวเลือกของราดหน้า ✅ ➡️ เลือกเส้น : มีเส้นใหญ่ / เส้นหมี่กรอบ (signature) / เส้นบะหมี่กรอบ / เส้นใหญ่ใส่ไข่ / ข้าว และเส้นผสม เมนูแนะนำของที่นี่คือเส้นหมี่กรอบก็จริง แต่ตัวที่มักหมดก่อนคือเส้นใหญ่นะคะ ➡️ เลือกเนื้อสัตว์ : เนื้อวัว (signature) / หมู / ไก่ / กุ้ง / ปู / ปลากระพง ➡️ เลือกชนิดของราดหน้า : ราดหน้า / ราดหน้าเต้าซี่ ✅ เมนูที่เราลอง ✅ ➡️ ราดหน้าเส้นหมี่หมู – เส้นหมี่ที่นี่เส้นบางละเอียดทอดมาจนกรอบฟูฟ่อง พอทานกับน้ำราดหน้าก็ได้สัมผัสกึ่งกรอบกึ่งนุ่มดีค่ะ เนื้อหมูนี่หมักมาจนนุ่มละมุนสุดๆ น้ำราดหอมควันบางๆ ความหนืดกำลังดี รสชาติกลมกล่อม ใส่ยอดคะน้าดุ้นโตที่เลาะใบออก มีแต่ก้านกรอบๆล้วนๆไร้เสี้ยนกวนใจ เรียกว่าคัดมาแต่ยอดอ่อนจริงๆ ชิมแล้วจานนี้อร่อยสมกับชื่อเสียงทีเดียว ➡️ เกี๊ยวกรอบ – เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมที่เหมาะจะสั่งมาทานเล่นระหว่างที่รอราดหน้ามาเสิร์ฟ ไส้แน่น แป้งบาง ทอดกรอบกริ๊บ จิ้มน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยหวานๆนี่คือเพลินจนลืมนับแคลกันเลย โดยรวมแล้วฝีมือจัดว่าเด็ดจริง วัตถุดิบดี ไม่แปลกใจที่คงชื่อเสียงไว้ได้ยาวนาน แม้จะเปิดร้านแค่วันละ 4 ชั่วโมงช่วงมื้อกลางวัน (ถ้าของหมดก่อนก็ปิดก่อน) ทำให้คนเยอะ รอนาน แต่สำหรับคนชอบทานราดหน้าก็ถือว่าคุ้มที่จะไปลองอย่างน้อยก็สักครั้งล่ะค่ะ #SantaTasty
Le Normandie - ห้องอาหารฝรั่งเศสของโรงแรม Mandarin Oriental แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นระดับตำนานของกรุงเทพฯที่คงความเป็นเลิศในทุกด้านมาโดยตลอด นอกจากจะเป็นร้านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมาแต่แรกเริ่มแล้ว ภายใต้การนำของ Chef Arnaud Dunand-Sauthier ทางร้านก็ได้คว้ารางวัล 2 Michelin Stars จาก Michelin Guide Bangkok ติดต่อกันมาทุกปีตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีล่าสุดคือ 2021 ที่เพิ่งประกาศไปสดๆร้อนๆนี้ด้วย จัดเป็นร้านที่คนชอบอาหารฝรั่งเศสควรต้องหาโอกาสมาลองให้ได้เลยล่ะค่ะ 🔥 Découverte (Discovery Lunch)🔥 เป็นอาหารกลางวัน 4-6 คอร์ส ที่ให้บริการทุกวันจันทร์-เสาร์ 12.00 – 14.30 น. (last order 14.00) โดยที่เมนูจะมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามฤดูกาล สำหรับเมนูที่เราทานครั้งนี้จะมีแค่จนถึง 19 ธันวาคม 2563 นี้นะ ✅ [Amuse Bouche] ➡ เปิดฉากมาคำแรกด้วย Parmesan Cheese Cracker กรอบๆหอมๆสอดไส้ด้วย Beaufort mousse ผสม walnut ที่บดผสมมาจนเป็นเนื้อเดียวกันเนียนๆ ทานเพลินกรุบกริบ สั่งเครื่องดื่มมาจิบแกล้มกันได้เลย จากนั้นก็เป็น canape อีก 3 อย่าง จัดวางมาบนกล่อง 2 ชั้น สวยหรูราวกับหีบสมบัติ โดยทางร้านแนะนำให้ทานเรียงลำดับกันตามนี้ค่ะ ➡ คำแรกเป็น Razor Clam หรือหอยหลอดลวก ปรุงรสด้วย Zucchini Puree และมะเขือเทศ รสชาติกลมกล่อมสมดุลไร้ที่ติเลยทีเดียว ➡ คำที่สองเป็นมูสสีเขียวๆซึ่งก็คือ French Herb Sauce แต้ม Egg Yolk Gel ไว้ด้านบน สอดไส้ด้วยปลาไหลรมควันนุ่มๆชิ้นจิ๋ว ดีงามอีกเช่นกัน ➡ คำที่สามเป็นขนมปังแผ่นกลมพอดีคำ ทา Mango Chutney แล้วท็อปด้วย Foie gras โรยผงกาแฟบางๆค่ะ ➡ จานสุดท้ายเป็น Burgundy Escargot ที่ไม่ได้เสิร์ฟแบบราดเนยกระเทียมมาในจานหลุมแบบทั่วๆไป แต่ใช้วิธีปรุงรสแล้วนำไปชุบแป้งทอด เสิร์ฟมาเป็นก้อนกลมพอดีคำกรอบนอกนุ่มในที่มีไส้เป็นหอยทาก escargot หนุบๆ ทานร้อนๆก็ดีใช้ได้เลยล่ะค่ะ ✅ [Bread & Butter] ขนมปังมีให้เลือกทั้ง Baguette, Brioche และ Sourdough เสิร์ฟที่อุณหภูมิห้องไม่ได้อุ่นร้อนห่อผ้ามาแบบบางที่ แต่เนื้อขนมปังดีเลิศมากทุกอย่าง อร่อยจนต้องขอเบิ้ลกันเลย ในส่วนของเนยที่นี่ใช้ของ Bordier มีทั้งเนยจืด เนยเค็ม เนยสาหร่าย และเนยหัวหอม (seasonal) ให้เลือก ชิมแล้วเราชอบเนยหัวหอมมากที่สุดเลย ได้เนยดีๆแบบนี้นี่แค่ทาขนมปังง่ายๆก็ฟินแล้วล่ะค่ะ ✅ [Course I] ➡ Normandie Oyster, Watercress, Sea Buckthorn จานนี้ presentation สวยงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว หอยนางรมจากนอร์มังดีลวกพอสุก ตกแต่งด้วยไข่ปลาคาเวียร์และมูสที่ทำจากลูก Sea Buckthorn วางมาบน Watercress sauce ที่รสชาติประณีตซับซ้อน ได้รสพริกไทยบางๆเสริมความอร่อย ปลื้มปริ่มสุดๆไปเลย ✅ [Course II] ➡ Octopus, Endive, Grape, Shiso หนวดปลาหมึกยักษ์จากมหาสมุทรแอตแลนติก ต้มมานุ่มละมุน วางมาบนจานที่ป้ายด้วย Pickled Shizo Paste สีเขียว ราดซอสครีมข้นที่ทำจากเหล้า Bourbon และไวน์ขาว เคียงด้วยใบ endive ที่ตุ๋นจนนุ่ม มีรสขมหน่อยๆ แต่ทานรวมกันกับองค์ประกอบอื่นๆคือลงตัว แถมด้วยองุ่นผ่าซีก 1 ลูกช่วยตัดรสและเพิ่มความสดชื่น เป็นอีกจานที่ทำให้ประทับใจค่ะ ✅ [Course III & IV] ➡ Red Mullet, Black Garlic, Liquorice ปลา Red Mullet (ปลากระบอก) เนื้อนุ่มฉ่ำ ราดซอสสีดำที่ทำจาก Black Garlic (กระเทียมที่บ่มจนมีสีดำ ทำให้ปราศจากกลิ่นฉุน) และชะเอม ตัดรสเค็มด้วยไส้กรอก Chorizo จากสเปน หั่นเป็นชิ้นจิ๋วๆ อร่อยดีอีกเช่นกัน ➡ Game Bird Pie, Cabbage, Juniper จานปลาว่าดีแล้ว จานนี้เราว่าเด็ดกว่า แป้งพายบางๆทรงโดมสอดไส้เนื้อนกที่สุกกำลังดี นุ่ม และไม่มีกลิ่นสาบใดๆเลย ท็อปด้วย Foie gras หอม-มัน ละลายในปาก ราดซอสรสชาติกลมกล่อมลงตัว เคียงด้วยกะหล่ำปลีที่ตุ๋นในน้ำซุปเป็ดจนนุ่มละมุน ดีงามน้ำตาจิไหล ✅ [Course V – Choice of Delicacies] เป็นคอร์สของหวานที่มีตัวเลือกอยู่ 5 อย่าง เราไปกัน 2 คนก็เลือก 2 จานนี้มาค่ะ ➡ Crêpes Suzette ; Crêpes Suzette Flambéed at Your Table, Vanilla Ice Cream เมนูนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็น signature dessert ของที่นี่ไปแล้ว เพราะน่าจะเป็นไม่กี่ที่ในเมืองไทยที่มาทำ Crêpes Suzette ให้ดูถึงข้างโต๊ะ เคี่ยวน้ำส้ม ใส่น้ำตาล เติมเหล้า แล้ว Flambé จนไฟลุกพรึ่บแบบถูกต้องตามตำราทุกขั้นตอน ไม่มีการลักไก่ใช้แยมส้มสำเร็จรูปแล้วแค่จุดไฟโชว์อย่างที่หลายๆร้านชอบทำกันแน่นอน รสชาติ Crêpes Suzette ที่นี่จึงอมหวานอมเปรี้ยวกำลังดี แป้งเครปเนื้อนุ่ม ดูดซับน้ำซอสส้มจนฉ่ำ ทานคู่กับไอศกรีมโฮมเมดรสวานิลลาเข้ากันสุดๆเลย ➡ Caramel Mille-Feuille เป็น Mille-Feuille ที่พรีเซนต์มาแบบเรียงเป็นแนวนอนเก๋ๆ แป้ง pastry กรอบกริ๊บ มีเคลือบน้ำตาลบางๆ แฝงรสเกลือมาเพียงเล็กน้อย ไส้เป็นไอศกรีมวานิลลา เคียงด้วยครีมสดราดซอสคาราเมลเข้มข้น จัดเป็น Mille-Feuille ที่อร่อยที่สุดที่เคยทานมาเลยล่ะค่ะ ✅ [Coffee or Tea] มีรวมให้ใน Lunch Set อยู่แล้ว เราเลือกเป็นกาแฟดำ Long Black เบลนด์กลมกล่อม หอมเข้ม ดีใช้ได้เลยนะ ✅ [Petit Fours] ➡ Parisian Flan พายไส้ครีมคัสตาร์ดที่เบิร์นด้านบนมาพอเป็นรอยไหม้หอมๆ ทานกับกาแฟก็เพลินดีค่ะ ➡ Artisanal Chocolate Bon Bon ใส่กล่องมาให้เลือกละลานตา เราเลือกไส้ Tonka Bean, Hazel Nut, Lemon Cream และ 70% Dark Chocolate อร่อยถูกใจทุกชิ้นเลย 🎁 [ของแถมกลับบ้าน] ตามธรรมเนียมของที่นี่ พนักงานจะเตรียมขนมใส่ถุงเล็กๆไว้มอบให้ลูกค้านำกลับบ้านหลังทานเสร็จ สำหรับครั้งที่ไปนี้เป็น Kouign-Amann ขนมจากแคว้น Brittany ที่เป็น pastry ซ้อนกันเป็นชั้นๆ กรอบๆหอมเนย ผิวนอกโรยน้ำตาล ทานเพลินดีจริงๆ ในภาพรวม Le Normandie ก็ยังรักษามาตรฐานได้ดีสมกับชื่อเสียง อาหารประณีต โชว์ทักษะฝีมือได้ซับซ้อน รสชาติละมุนละไม บรรยากาศงดงาม บริการดีเลิศ ไม่ใช่แค่ไร้ที่ติแต่ดีเกินความคาดหวังได้ตลอด ราคาสูงตามคุณภาพ จะมาจัดมื้อประทับใจในโอกาสพิเศษต่างๆ หรือจะให้รางวัลตัวเองเป็นครั้งคราวก็เหมาะค่ะ #SantaRelax
Roots - ร้านที่เป็นทั้ง café และ micro roastery แห่งนี้นำเสนอกาแฟ Specialty coffee จากเมล็ดกาแฟของไทยภายใต้แนวคิด From farm to cup ควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นทางที่แหล่งปลูกทางภาคเหนือ และไม่ลืมที่จะตอบแทนผลกำไรกลับคืนให้แก่ผู้ผลิตเพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง อย่างที่ทางร้านเล่นคำว่า From cup to farm อีกด้วยค่ะ สำหรับครั้งนี้เรามาที่ Roots at Saladaeng ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น The Ground ของโครงการ the COMMONS ศาลาแดง (ติดกับร้าน Roast ที่เป็นร้านอาหารในเครือเดียวกัน) การตกแต่งร้านยังคงเป็น counter bar ที่เอื้อให้ลูกค้าและ barista สามารถสนทนาภาษากาแฟกันได้เช่นเดียวกับสาขาอื่นๆ มีเบเกอรี่อบสดใหม่ให้สั่งมาทานแกล้มกาแฟบ้างพอสมควร พอเลือกที่นั่งได้เราก็สั่งกันเลย... ☕️Caffe Latte ➡️ เราเลือกเมล็ดกาแฟเป็น House Blend (70% ปางขอน / 30% แม่สรวย – Honey Process) ➡️ Tasting Notes – Buttery, Pear, Vanilla, Sweet caramel finish สิ่งที่ทำให้เราชอบกาแฟของร้านนี้ก็คือกลิ่นที่กรุ่นอวลเตะจมูกและรสชาติที่ชัดเจน สำหรับเบลนด์นี้จับคู่เมล็ดกาแฟบอดี้แน่นอย่างปางขอนเข้ากับกาแฟบอดี้เบาๆแบบแม่สรวยได้อย่างสมดุลลงตัว Tasting Notes ดื่มง่ายเหมาะกับคนที่ไม่ชอบกาแฟรสเปรี้ยวจัด สัดส่วนของนมคือเป๊ะ ฟองนมละมุนนุ่มละเอียด Aftertaste หอมหวานกรุ่นค้างเนิ่นนาน จิบเพลินดีมากๆค่ะ 🥧 Mango Passion Fruit Cream Pie แป้งพายกรอบหอมดี ตรงกลางเป็นชั้นของครีมเสาวรสและครีมสด ท็อปด้วยชิ้นมะม่วงสุกฝานบางเรียงเป็นชั้นๆ ชิมแล้วไม่ค่อยได้กลิ่นรสของเสาวรสเท่าไหร่ เน้นความหวานฉ่ำๆจากรสธรรมชาติของมะม่วงสุกเป็นหลัก แอบอยากให้มีรสเปรี้ยวปนอีกนิด แต่นี่ก็ดีใช้ได้อยู่ล่ะ 🎉🎉 ในส่วนของเบเกอรี่นี้หลัง 17.00 น. ทางร้านจะนำมาลดราคา 50% เป็นบางอย่าง (ขึ้นอยู่กับว่ามีอะไรเหลือบ้างนั่นล่ะค่ะ) เราเลยจัด plain croissant กลับบ้านมา 2 ชิ้น อุ่นทานร้อนๆแป้งเบากรอบเป็นชั้นสวย อร่อยค่ะ ปลื้มมากกว่าขนมนิดนึงนะ โดยรวมแล้วกาแฟที่นี่คือดีจริง และรักษามาตรฐานได้สม่ำเสมอแม้ปัจจุบันจะมีร้านถึง 4 สาขา (ทองหล่อ / ศาลาแดง / สาทร / ลาซาล) เรื่องขนมและเบเกอรี่อาจไม่หลากหลายนัก แต่คุณภาพดี รสชาติใช้ได้ เป็นหนึ่งในร้านที่คนรักกาแฟควรต้องจัดเลยค่ะ #SantaUmbrella
ร้าน Indian Food นี้แค่ชื่อก็บอกว่าขายอาหารอินเดียแท้ๆ ปัจจุบันร้านมีถึง 4 สาขาทั่วกรุงเทพฯ ครั้งนี้ผ่านมาที่สาขาดั้งเดิมตรงเจริญนคร เห็นร้านเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งด้วย เลยแวะซื้อกลับบ้านตุนเสบียงซะหน่อยค่ะ ➡️ Chicken Tikka Masala (160 บาท) - แค่เปิดฝามาก็หอมแล้ว กลิ่นเครื่องเทศเย้ายวนใจมาก น้ำแกงเข้มข้น ได้รสมะเขือเทศที่เคี่ยวเป็นเบสผสมรสชาติเค็มเผ็ดจากเครื่องเทศที่สมดุลลงตัว น้ำแกงเข้มข้นเคี่ยวเข้าเนื้อ ในส่วนของเนื้อไก่เป็นเนื้อส่วนอกล้วนๆ หมักโยเกิร์ตจนนุ่มก่อนจะนำไปย่างแล้วนำมาใส่ในน้ำแกง สัมผัสเวลาเคี้ยวละมุนมาก ไม่แห้งแบบเนื้ออกไก่ทั่วไปเลย อร่อยค่ะ ทางร้านจัด mint chutney และ onion pickle มาเป็นเครื่องแกล้มด้วย ช่วยเสริมรส/ตัดรสได้ดีทีเดียว ➡️ Basmati Rice (50 บาท)- เลือกแบบ plain ไม่ผสมอะไรเลย ทางร้านใช้ข้าว basmati อย่างดีเม็ดยาวเรียวเต็มเมล็ดสวย ไม่มีข้าวหักๆให้เห็น หุงแบบเรียงเม็ดร่วนดีค่ะ สำหรับการซื้อกลับบ้าน ทางร้านใช้กล่องแบบเข้าไมโครเวฟได้ สะดวกดีทีเดียว ในส่วนของรสชาติเท่าที่ลองไปคือดีเลย เห็นฝีมือแล้วถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับไปลองเมนูอื่นๆดูอีกนะคะ #Happydecember
เป็นอีกครั้งที่มีโอกาสได้ลองขนมของร้าน Seen ในรูปแบบของการซื้อกลับมาทานที่บ้าน เราเลือกลองเป็น croissants 2 ชิ้นนี้ค่ะ ➡️ Butter croissant เนื้อครัวซองต์หอมเนย ฉ่ำนิดๆ เปลือกไม่ค่อยกรอบเท่าไหร่ มีแต่ชั้นผิวนอกสุดบางๆที่กรอบร่อนร่วน เนื้อในมีความพรุนตามที่ควรเป็นนะคะ ฺ➡️ Cream cheese raspberry croissant เรื่องแป้งครัวซองต์ก็เนื้อเดียวกับชิ้นแรก แต่ชิ้นนี้มีรสครีมชีสบางๆ ไส้อัดแน่นด้วย raspberry กวนเปรี้ยวๆ หอมกลิ่นกุหลาบเบาๆ สดชื่นและช่วยตัดเลี่ยนได้ดี ที่ชอบคือในส่วนของ raspberry กวนนั้นเป็นเนื้อผลไม้เน้นๆ ไม่ได้ผสมเยลลี่หรืออะไรอื่นเลย เน้นคุณภาพดีมากๆค่ะ สำหรับคนที่อยากลองแต่ไม่มีโอกาสไปที่ร้าน ทางร้านมาออกบูธที่สยามพารากอนชั้น G โซน Food court วันที่ 1-18 ธันวาคม ด้วย โดยนอกจาก croissants 2 แบบนี้แล้วก็มีขนมอื่นๆให้เลือกชิมอีกเยอะทีเดียว แวะไปดูกันได้ค่ะ #Happydecember
Guss Damn Good – Craft Ice Cream สไตล์ Boston จากฝีมือของคนไทยเจ้านี้โดดเด่นทั้งเรื่องรสชาติที่ damn good สมชื่อ และการครีเอทรสชาติแปลกใหม่ที่ทุกรสจะมีเรื่องราวแฝงอยู่ (Story to flavor) เราจึงได้เห็นเมนูของร้านเต็มไปด้วยไอศกรีมชื่อเก๋ๆที่มีแรงบันดาลใจที่เกี่ยวพันกับรสขาตินั้นๆ เหมือนอย่างรสชาติล่าสุดที่ทางร้านเพิ่งเปิดตัวไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคือ “Keep Walking” ที่แฝงความหมายดีๆถึงการก้าวไปข้างหน้าให้ไกลกว่าเดิม และความกล้าคิดกล้าทำเพื่อไปสู่ความสำเร็จนี่ล่ะค่ะ 🚶Keep Walking เป็นไอศกรีม 20+ ที่ทางร้านครีเอทขึ้นในโอกาสครบรอบ 200 ปีของวิสกี้ที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Johnnie Walker โดยเลือกตัว Gold Label มาผสมกับแอปเปิ้ล ซอสแอปเปิ้ล และ candied pecan กรุบกรอบ ได้ออกมาเป็นรสชาติที่อร่อยลุ่มลึกจนต้องทึ่งเลยทีเดียว ทั้งความเปรี้ยวหวานจากแอปเปิ้ล ความกรอบกริ๊บหอมมันของถั่วพีแคน เข้ากันดีกับความขมลึกนุ่มนวลและกลิ่นหอมที่เย้ายวนของ Gold Label ที่ใส่มาแบบชัดๆเต็มๆ เป็นความกล้าคิดกล้าครีเอทที่เข้ากับชื่อรสมากเลยล่ะ 🍦🍦-ไอศกรีมรสอื่นๆที่สั่ง-🍦🍦 🍊Tokyo Mist เป็น sorbet ที่มีเนื้อละเอียดเนียนนุ่มและได้กลิ่นรสของส้มยูสุหอมๆแบบชัดเจนมาเต็ม สมดุลความเปรี้ยวหวานกำลังดี ถูกใจค่ะ ☕️ Intro to Coffee เป็นไอศกรีมรสกาแฟผสม caramel crunch ที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องดื่ม Caramel Macchiato แค่เข้าปากคำแรกก็ว้าวแล้ว กลิ่นกาแฟนี่รู้เลยว่าใช้กาแฟเกรดพรีเมี่ยมทำจริงๆ หอมอวล เข้มข้น และเข้ากับรสของคาราเมลได้ดีมากๆ 🏖 Maine Rocky Coast เป็นรสชาติที่ทำให้นึกถึงชายหาดและท้องทะเลจริงๆ ไอศกรีมรส Sea Salt เค็มๆที่มีความกรุบกรอบจากทั้ง Sea Salt และเมล็ดอัลมอนด์อบหอมๆมันๆ ตัดกับความเนียนนุ่มครีมมี่ของเนื้อไอศกรีม เป็นไอเดียเริ่ดๆที่ทำให้รู้ว่าไอศกรีมเค็มๆก็ทำให้อร่อยได้ถ้ามีฝีมือพอ ใครไม่ชอบขนมรสหวานจัด ไอศกรีมรสนี้นี่ล่ะใช่เลย โดยรวมแล้วแม้ปัจจุบันจะขยายสาขามากถึง 9 สาขา แต่ Guss Damn Good ก็ยังคงรสชาติและคุณภาพในระดับ Craft Ice Cream ไว้ได้ดี มีทั้งความครีเอทและทักษะในการผสมผสานรสชาติที่น่าทึ่ง เรียกว่าจิ้มเลือกรสไหนก็ฟินทั้งนั้น ราคาค่อนข้างสูง แต่ชิมแล้วก็พอเข้าใจได้ล่ะค่ะ #Happydecember
Caper by Dan Bark – เป็นโปรเจ็กต์ล่าสุดของเชฟ Dan Bark ชาว Korean-American ผู้เคยทำให้ร้าน Upstairs at Mikkeller ได้รับรางวัล 1 Michelin Star มาแล้วตั้งแต่ปีแรกที่มีการมอบรางวัลจนถึงวันที่ร้านปิดตัวลง ด้วย concept ที่ต้องการนำเสนอ Comfort Modern American Cuisine ในรูปแบบที่ผ่อนคลายและเข้าถึงง่าย ตรงตามความหมายของคำว่า “Caper” อันสื่อถึงการเต้นรำกระโดดโลดเต้นอย่างร่าเริงสนุกสนาน นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เชฟ Dan Bark ทำเมนูอาหารแบบ a la carte ให้เราสามารถเลือกสั่งเป็นจานๆได้ตามใจ มี serving size ที่สามารถแชร์กันทานได้ ให้อารมณ์แตกต่างจาก“Cadence by Dan Bark” ที่ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกันและได้เปิดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นร้าน Fine-dining ที่เชฟจะเสิร์ฟ course menu เต็มรูปแบบนะคะ ในส่วนของการตกแต่งร้านนั้นเป็นสไตล์ Art Deco ซึ่งดูเข้ากันกับความเป็นอเมริกันของอาหารที่นี่ได้ดี เริ่มจาก Drink Bar บริเวณด้านหน้าที่ชวนให้นึกถึง Prohibition Era และ Dining Area ด้านในที่ให้อารมณ์แบบงานเลี้ยงใน The Great Gatsby มีห้องครัวขนาดใหญ่กั้นด้วยกระจกใสอยู่ตรงกลางให้มองเห็นทีมเชฟขณะเตรียมอาหารได้ถนัด โดยบริเวณห้องครัวนี้จะเชื่อมกับร้าน Cadence ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของตึกด้วยค่ะ *****-เมนูที่ลอง-***** ✅ [DRINK] ครั้งนี้ที่ไปทานเป็นดีล BRW 2020 จากแอพ Wongnai จึงมีเครื่องดื่มรวมอยู่ด้วย เป็นคล้ายๆ Lemon Soda ที่มีกลิ่นมะม่วงแฝงมาแค่เบาๆ มีสมดุลเปรี้ยวหวานที่ลงตัวสดชื่นเป๊ะเลย แม้จะเป็นเครื่องดื่มที่ดูง่ายๆ แต่เห็นฝีมือแล้วก็เชื่อว่าทั้ง Mocktails และ Cocktails ในเมนูหลักของร้านต้องดีแน่ๆเลยล่ะค่ะ ✅ [SNACK] ➡️ TRUFFLE TOAST | toasted brioche, truffle cheese, parmesan & fresh summer truffle shavings ขนมปังบริยอชที่อบมาจนผิวนอกกรอบกริ๊บแต่เนื้อในยังนุ่มนวล โปะมาด้วย truffle cheese ล้นๆฉ่ำๆ ขูดชีส parmesan โรยมาท่วมๆฟูฟ่อง แล้วท็อปด้วย summer truffle อีกที ได้ทั้งความหอมมันของชีสและกลิ่นรสทรัฟเฟิลกรุ่นอวลเต็มคำ เรียบง่ายแต่อร่อยไม่รู้ลืมเลยทีเดียว ✅ [STARTERS] ➡️ BEET SALAD & DUCK CONFIT CROQUETTE | romesco, black garlic & goat cheese เป็นสลัดที่มีองค์ประกอบซับซ้อนหลากหลายแต่นำมาทานร่วมกันได้ลงตัวสุดๆ เริ่มจากบีทรูทที่นำมาดองจนเนื้อนุ่ม ได้รสหวานอมเปรี้ยว/ croquette ที่ทำจากเนื้อเป็ด confit แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลมชุบแป้งขนมปังทอดจนผิวกรอบ เนื้อเป็ดทั้งละมุนและหอมมากมาย / quinoa ที่นำมาต้มแบบ pasta ปรุงรสด้วยซอส romesco ที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศ ไขมันจากเป็ด เกลือ ถั่ว พริกไทยใส่ black garlic ได้รสชาติออกมากลมกล่อมกำลังพอดี / ใส่ผักทั้งใบ rocket และหัวหอมซอย แล้วยังขูด goat cheese โรยมาทั่วๆ ทุกอย่างในจานมีการเสริมรส-ตัดรสกันเป็นอย่างดี อวดฝีมือการผสมผสานทั้งรสชาติและ texture ได้น่าประทับใจจริงๆค่ะ ➡️ SALMON CRUDO | cream cheese, grilled asparagus, greens & coconut vinaigrette Cured salmon ที่หมักด้วยบีทรูทจนมีสีแดงก่ำเนื้อแน่น-นุ่ม ราดด้วยครีมชีสและ vinaigrette ที่ทำจากกะทิผสม cherry vinegar และน้ำมันมะกอก ชิมแล้วได้รสหวานนำ-เค็มบางๆ-เปรี้ยวเบาๆ สมดุลกลมกล่อม มีกลิ่นรสกะทิชัดเจนจริงเสียด้วย โรยข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่ทอดจนเป็นข้าวพองกรอบๆมันๆ ใส่ผักสด ผักชี ไชเท้าญี่ปุ่นฝานบาง และ Asparagus ที่เอาไปย่างให้หอมเสียก่อน ทั้งครีเอทและมีดีเทลที่ชวนให้ทึ่งเอามากๆ ✅ [MAIN DISHES] ➡️ SEARED DUCK BREAST | pumpkin puree, smoked cranberry & braised red cabbage เนื้ออกเป็ดจี่จนหนังด้านนอกกรอบกริ๊บ หนังเป็ดมีความหนาค่อนข้างมาก ด้านในจึงยังเป็นหนังนุ่มๆอยู่ แต่แปลกมากที่ทานแล้วไม่เลี่ยนแบบเป็ดหนังหนาทั่วไป แถมมีสัมผัสที่เคี้ยวสนุกไปอีก ส่วนเนื้อเป็ดก็สุกสม่ำเสมอกันเป็นสีชมพูสวย ทั้ง นุ่มละมุนและหอมมาก ซอสราดรสเค็มอ่อนๆกลมกล่อม แฝงกลิ่นอายแบบเอเชียนิดๆ ทานแกล้มกับ puree ฟักทองเนื้อเนียนละเอียด, กะหล่ำม่วงตุ๋น, smoked cranberries และ lemon sphere รสเปรี้ยวสดชื่นที่แต้มเป็นจุดๆอยู่บนจาน โรยเมล็ดฟักทองกรอบๆ ใส่ผักสดอีกนิดคือลงตัว อร่อยน้ำตาจิไหล ➡️ HOKKAIDO SCALLOPS | barley "risotto", roasted cauliflower & caper sauce เป็นอีกจานที่ฟินหนักมาก หอยเชลล์ชิ้นอวบ จี่มาพอให้ผิวเป็นรอยไหม้หอมๆสุกกลางๆเนื้อนุ่มกำลังดี Caper sauce ที่ราดมามีรสชาติกลมกล่อมลุ่มลึกละมุนลิ้น ทานกับ Risotto ข้าวบาร์เล่ย์นุ่มหนึบ ใส่ดอกกะหล่ำที่มีทั้งแบบต้มและแบบอบกรอบๆ โรยผักชีลาวเพิ่มกลิ่นหอม ปลี้มปริ่มมากบอกเลย ✅ [DESSERT] ➡️ BANANA BREAD & BACON | warm banana bread, bacon ice cream & rum maple syrup เป็นขนมปังที่ใส่กล้วยหอมบดผสมในเนื้อขนมปัง อบจนผิวนอกกรอบ เนื้อในนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติกล้วยหอมแบบเต็มๆ เสิรฟ์อุ่นๆ ทานกับไอศกรีมรสเบคอนเนื้อละเอียดครีมมี่ โรย bacon bits กรอบๆเค็มๆ แล้วราด rum maple syrup เพิ่มความหอมหวาน ทานรวมกันทุกส่วนคือดีงามค่ะ ⭐️THE VERDICT⭐️ อาหารอเมริกันนั้นได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอาหารของชนชาติต่างๆที่เข้าไปตั้งรกรากอยู่ในประเทศอเมริกาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงชาวอเมริกันสายเลือดเกาหลีอย่างเชฟ Dan Bark ด้วย อาหารที่นี่จึงมีการสอดแทรกรสชาติจากเอเชียเข้ากับอาหารตะวันตกได้อย่างมีเอกลักษณ์ มีไอเดียในการผสมผสานรสชาติที่น่าทึ่ง จากที่ได้ลองครั้งนี้ ถ้าให้สรุปง่ายๆในประโยคเดียวเลยก็คือ “อร่อยทุกอย่าง” ไม่ว่าจะเลือกลองจานไหนก็ดีงามไปหมด แม้จะเป็นอาหารที่สั่งจากเมนูได้แบบ a la carte แต่ก็เต็มไปด้วยดีเทลแสนประณีตใกล้เคียงกับอาหารคอร์สในร้านระดับ Fine Dining เป็นมื้อประทับใจที่ทานแล้วหลงรักร้านนี้ไปเลย ใครชอบอาหารแนวนี้บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดค่ะ #Nov2020
สวนผัก โอ้กะจู๋ - ร้านดังจากเชียงใหม่ร้านนี้แม้จะมีหลายสาขาแล้ว แต่ก็กระแสดีคนแน่น คิวยาวตลอด เราเลยใช้วิธีแอดไลน์ร้านแล้วสั่ง Delivery เอาแทน แม้จะรออาหารนานหน่อย (เกินครึ่งชั่วโมง) แต่ก็ได้นั่งๆนอนๆรอสบายๆอยู่ที่บ้าน สะดวกดีค่ะ ➡️ สลัดทูน่ายำแซ่บ (186 บาท) - ผักสดกรอบมาก แพ็คใส่กล่องเบ้อเริ่ม ซีลมาอย่างดี แยกอัลมอนด์ฝานใส่ถูงมาต่างหากเพื่อรักษาความกรอบ น้ำสลัดเนื้อขุ่นๆกึ่งครีม แต่มีความเปรี้ยวความเผ็ดแบบยำ ให้เนื้อทูน่ามาเยอะ ชิมแล้วรสชาติดีอร่อยสดชื่นถูกใจค่ะ ➡️ Natural Yeast Garlic Bread Cream Cheese (95 บาท) - ขนมปังกระเทียมแบบโปะครีมชีสมาด้วยแทนการทาเนยแบบปกติ ตอนมาส่งคือยังอุ่นอยู่นิดๆ เนื้อขนมปังเป็นแบบนุ๊มนุ่ม ดูดซับครีมชีสไว้ได้ค่อนข้างเยอะ รสชาติครีมชีสออกจะหวานๆ กลิ่นกระเทียมชัดเจน ทานไปทานมาชักรู้สึกว่าเลี่ยนไปหน่อย เลยไม่ค่อยชอบนะ สำหรับการสั่งครั้งนี้สลัดคือดีงามมาก ส่วนขนมปังกระเทียมนั้นคิดว่าเราคงพลาดไปสั่งของที่ไม่ถูกจริตเข้ามากกว่าจะเป็นเรื่องฝีมือ ครั้งหน้าคงจะสั่งขนมปังกระเทียมแบบ Baguette ตามปกติน่าจะถูกใจกว่าค่ะ #Nov2020
ปรกติแม้จะชอบทานแหนมเนืองแต่ก็ไม่ได้จัดบ่อยเพราะรู้สึกว่ายุ่งยาก ต้องหั่น ต้องแช่แป้ง กว่าจะจบแต่ละอิ่ม ครั้งนี้ผ่านมาที่ร้านแดงแหนมเนืองสาขาห้างใหญ่ใจกลางกรุงอย่างสามย่านมิตรทาวน์ เห็นมีทำเป็นแหนมเนืองโรล ห่อให้เสร็จเรียบร้อยเป็นคำๆแถมจัดตะเกียบมาให้ด้วย 1 คู่/กล่อง ร้านอยู่บริเวณชั้น B1 ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร มีที่นั่งส่วนกลางให้ถือไปนั่งทานได้เลยไม่ต้องหอบหิ้วกลับบ้าน สะดวกสบายสมกับอยู่ย่านนี้ที่กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักเรียน-นิสิต ถือว่าร้านปรับตัวตามไลฟ์สไตล์ลูกค้าได้ดีมาก เลยจัดมาลองซะ 1 กล่องค่ะ แหนมเนืองโรล - ผักสดดี หมูยออร่อย น้ำจิ้มของที่นี่มีรสหวานนำ ใส่น้ำส้มสายชู โรยถั่วป่นคือลงตัว รอบแรกที่ซื้อเข้มข้นใช้ได้ รอบที่สองดูจะเจือจางลงเล็กน้อย แอบเดาว่าน่าจะเกี่ยวกับการคนน้ำจิ้มในโถก่อนบรรจุลงกล่อง (หรือเปล่า?) แต่ในภาพรวมก็ยังอร่อยอยู่นะ สำหรับคนที่อยากซื้อแบบเอาไปหั่นเองที่บ้านแบบทั่วๆไป ทางร้านก็มีจัดชุดเล็ก / กลาง / ใหญ่ ไว้ให้ เลือกสรรกันได้ตามสะดวกค่ะ #Nov2020
ห่างหายจากร้านนี้ไปนานเนื่องจากไม่ค่อยมีเหตุให้ได้ผ่านไปละแวกนั้น แต่แล้วทางร้านก็มาออกบูธที่สยามพารากอนให้ได้จัดให้หายคิดถึงจนได้ล่ะค่ะ เลยสั่งอาหารแบบเอากลับบ้านมา 2 อย่างนี้เลย ➡️ ซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดง - เมนูนี้รู้ฝีมือกันอยู่ว่าอร่อยแน่นอน สำหรับคนที่อยากทานกับเส้นบะหมี่ ทางร้านมีการนวดเส้นสดในบูธไม่ต่างจากไปทานที่ร้านเลย แต่เพราะจะซื้อกลับบ้าน เราเลยสั่งแบบกับข้าวแทนค่ะ เนื้อหมูตุ๋นเปื่อยนุ่มสุดๆเลาะออกจากกระดูกได้ง่ายๆ น้ำแดงขลุกขลิกเข้มข้นรสชาติออกหวานนำ ทั้งหอมทั้งอร่อย มีเศษกระดูกแตกปนให้ทานลำบากบ้างตามประสาเนื้อซี่โครง แต่ก็ยังฟินมากมาย รักษาฝีมือได้เด็ดเหมือนเดิมนะ ➡️ โรตีต้นหอมทอดกรอบ - สั่งด้วยความอยากรู้อยากลองไม่ได้คาดหวังเยอะ แต่ปรากฏว่ามันดีเว่อร์ แป้งโรตีบางกรอบไม่อมน้ำมันเลย เนื้อสัมผัสดี มีกลิ่นต้นหอมที่ใส่มาด้วยก็ยิ่งชูรส ทานร้อนๆจิ้มนมข้นที่ทางร้านจัดมาให้คู่กันนี่เพลินมากๆ หยิบกันหมุบหมับแป๊บเดียวเกลี้ยงค่ะ #Nov2020
ร้านสไตล์กุ๊กช็อป หรือร้านที่เสิร์ฟอาหารฝรั่งแบบที่ปรุงโดยพ่อครัวจีนไหหลำมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่รุ่นย่านั้น มาถึงปัจจุบันนี้ก็หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ร้าน หนึ่งในจำนวนร้านที่ยังยืนหยัดอยู่มาได้ และยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าประจำแบบเหนียวแน่น ก็คือร้านไชยโรจน์นี้เองค่ะ ร้านเปิดมานานกว่า 70 ปี โดยเจ้าของรุ่นแรกก็ยังดูแลร้านด้วยตัวเองอยู่ จึงจัดเป็นร้านกุ๊กช็อปของแท้แต่ดั้งเดิมจริงๆ สำหรับครั้งนี้เราใช้วิธีสั่งอาหารจากร้านมาทานที่บ้าน ได้ลองไปหลายเมนูตามนี้เลยค่ะ *****-เมนูที่สั่ง-***** • ปลากระพงทอดราดพริก – ใช้เนื้อปลากระพงชุบแป้งทอด คงความกรอบนอกนุ่มในไว้ได้ดีแม้จะ delivery เพราะแยกพริกกระเทียมที่ผัดมาให้อีกถุงต่างหากเรียบร้อย รสชาติเผ็ดกลางๆหอมพริกสด หอมกระเทียม ทานเพลินดีทีเดียว • กุ้งทอดกระเทียม - จานนี้ใช้กุ้งตัวเล็กๆธรรมดาไซส์เท่าตามร้าน street food ทั่วๆไป แต่รสชาติคือดีมาก กุ้งสุกระดับพอดี เนื้อนุ่ม ผิวกรอบนิดๆ ผัดมาหอมกลิ่นกระเทียมพริกไทย อร่อยเด็ด แอบขำว่าร้านนี้เน้นรสชาติอย่างเดียว ไม่สนใจ presentation ใดๆจริงๆ คือนอกจากจะใช้กุ้งตัวเล็กหลายๆตัว (ซึ่งดูไม่สวยงามน่าตื่นใจเหมือนร้านที่ใช้กุ้งใหญ่แค่ 3-4 ตัว) แล้ว ยังแกะกุ้งมาเกลี้ยงเกลาทั้งหัวทั้งหาง ไม่มีการพยายามหลอกตาให้ดูเยอะ ซึ่งอันนี้เราชอบนะ กินง่ายดี สะอาดด้วย เคลียร์เส้นกลางตัวกุ้งออกหมด ตักใส่ปากอย่างเดียว สะดวกสุดๆค่ะ • ซี่โครงหมูอบถั่วลันเตา - ชอบความแยกแยะของร้านนี้ คือแยกซี่โครงหมูอบชุบแป้งทอดกับน้ำราด (เกรวี่ใส่ถั่วลันเตา) ต่างหาก ทำให้ซี่โครงหมูยังคงความกรอบนอกนุ่มในอยู่ รสชาติน้ำราดคือเค็มไปนิดแต่ก็ยังอร่อยมาก ทานกับข้าวสวยร้อนๆคือฟินเลย • สตูว์ลิ้นหมู – เป็นสตูว์ที่ใส่ลิ้นหมูชิ้นอวบหนานุ่ม ให้มาหลายชิ้น ใส่มันฝรั่งและถั่วลันเตา texture เข้มข้น รสชาติกลมกล่อม เป็นอีกจานที่ชอบมากค่ะ • ต้มยำทะเล – ปรุงมาเปรี้ยวนำ เค็มตามแบบจ่อๆ หอมพริกขี้หนู เผ็ดกลางๆ รสชาติดีใช้ได้เลย เครื่องทะเลมีเนื้อปลา ปลาหมึก และกุ้ง สังเกตุว่าปลาหมึกใช้ตัวเล็กมาก เนื้อหมึกเลยนุ่มละมุนเคี้ยวง่าย ไม่แน่ใจว่าจงใจหรือบังเอิญ แต่ก็ทำให้ทานอร่อยกว่าร้านที่ใช้หมึกตัวใหญ่ๆสวยๆแต่เนื้อหนาเหนียวน่ะค่ะ ส่วนปริมาณคือเยอะสะใจล้นชามกันไปเลย • ไอติมกะทิข้าวโพด – แพ็กใส่กล่องพลาสติกมีฝาปิด ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์มาให้หนาๆเพื่อรักษาความเย็นไว้ คลาสสิกจนเห็นแล้วแอบอมยิ้ม น่ารักอ่ะ (ถ้าเป็นร้านสมัยนี้ทั่วๆไปก็ใช้น้ำแข็งแห้งกันแล้ว) ไอติมกะทิที่นี่เนื้อละเอียดมาก หวานเบาๆ หอม-มัน สดชื่น เราชอบอีกอย่างว่าที่นี่ใช้เมล็ดข้าวโพดหวานต้มสดๆแยกใส่ถุงมาให้ต่างหาก ไม่ได้ใส่ผสมลงในเนื้อไอติม เลยทำให้ได้รสหวานตามธรรมชาติของข้าวโพดชัดเจน และไม่แข็งเกินไปค่ะ สำหรับค่าเสียหายมื้อนี้จ่ายไปเพียงหกร้อยกว่าบาทเท่านั้น เทียบกับรสชาติและปริมาณถือว่าราคาเป็นมิตรสุดๆ – และเพราะบริหารงานโดยคนรุ่นเก่าฝีมือเก๋านี่เอง จึงสังเกตได้ชัดเจนว่าทางร้านให้ความสำคัญกับรสชาติอาหารมากกว่าองค์ประกอบอื่นๆ - อย่างภาชนะที่ใช้ใส่อาหารเพื่อ delivery ก็เรียบง่ายแต่ใช้การได้ดี อาหารมาถึงแบบคงรสชาติและสัมผัสได้ครบถ้วน ใช้วัสดุง่ายๆ แบบกล่องโฟมรองใบตอง แต่อะไรที่ควรแยกก็แยก อะไรที่ควรห่อก็ห่อ ไม่มีพลาด สำหรับคนที่เคยไปนั่งทานที่ร้านก็คงทราบว่าทางร้านไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก เป็นโต๊ะเก้าอี้โล่งๆแต่สะอาด เน้นการใช้สอยจริงๆ เป็นเสน่ห์แบบร้านรุ่นเก่าที่นับวันก็จะหายากขึ้นเรื่อยๆ ใครชอบร้านแนวนี้ก็แวะไปลองกันได้ค่ะ #Nov2020
ติดใจขนมเปี๊ยะร้านนี้มาจากครั้งที่ได้ชิมเมื่อทางร้านมาออกบูธกับทาง Wongnai เมื่อนานมาแล้ว ครั้งนี้เจอร้านมาออกบูธอีกครั้งที่สยามพารากอน ทอดขนมเมื่อสั่งใหม่ๆร้อนๆ เลยต้องแวะซื้อกลับมาทานให้หายคิดถึงซะหน่อยค่ะ ขนมเปี๊ยะไส้เผือกไข่เค็ม - เมนูขึ้นชื่อที่สุดของทางร้าน ไส้เผือกนุ่มฟูดีเหมือนที่เคยจำได้ แต่ครั้งนี้น่าจะเพราะคนเยอะ คิวยาว ร้านเลยรีบเอาขนมใส่กล่องตอนยังไม่สะเด็ดน้ำมัน ทำให้มีความอมน้ำมันและแอบเลี่ยนนิดๆ แม้จะยังอร่อยอยู่ แต่เทียบกับความเป๊ะของคราวที่แล้วครั้งนี้ก็เลยต้องขอหักคะแนนนิดนะคะ #Nov2020
ช่วงก่อนที่ Covid-19 จะระบาดมีโอกาสได้ไปทานบุฟเฟต์มื้อกลางวันที่ห้องอาหาร Espresso ของโรงแรม Intercontinental Bangkok ค่ะ ****-Lunch Buffet จันทร์-เสาร์-**** ราคา : 899++ บาท เวลา : 12.00-14.30 น. ****-ไลน์อาหาร-**** บุฟเฟต์นี้จะเป็นอาหารนานาชาติ มีไลน์อาหารต่างๆประมาณนี้ค่ะ • ซูชิ/ซาชิมิ - วัตถุดิบมีแซลมอน tamago ปลาซาบะ ปลาโอ ปลาหมึก ปูอัด กุ้ง และไข่กุ้ง ซูชิปั้นข้าวคำใหญ่นิดนึงตามสไตล์บุฟเฟต์ แซลมอนลายสวย ปลาหมึกดีใช้ได้เลย ส่วนอย่างอื่นๆก็ธรรมดานะคะ • สลัดต่างๆ - สำหรับสลัดผักนั้นใช้ผักไฮโซทั้ง green oak , red oak , rocket ...ฯลฯ สดกริ๊บ ส่วนสลัดคลุกอื่นๆและ cold cut ก็ทั่วๆไป • Cutting Station - มีแฮม 1 อย่าง ครั้งนี้ไม่ได้ลองค่ะ • Cheese - วันที่ไปมีติดไว้ 2 อย่างคือ Brie กับ Blue Cheese ค่ะ • ขนมปัง - เป็นขนมปังสไตล์ตะวันตกแท้ ดูดีทีเดียว จัดมาทานกับซุปก็เหมาะนะ • ของว่าง - มีกุ้ยช่ายไส้ผักและไส้เผือกที่ทอดให้ร้อนๆ เป็นกุ้ยช่ายพรีเมียมสมกับที่มาอยู่ในห้องอาหารโรงแรมจริงๆ แป้งบาง ไส้แน่นเป่งแทบปริ อร่อยค่ะ ส่วนเกี๊ยวซ่าไส้หมูก็กลางๆพอใช้ได้ล่ะ • ก๋วยเตี๋ยว - ทำสดๆชามต่อชาม รสชาติขึ้นอยู่กับฝีมือปรุงจ้า • Pasta – มีเส้นที่ลวกเตรียมไว้ทีละเยอะๆก่อนแล้ว และผัด / อุ่นซอส ให้ทีละจานตามสั่งค่ะ • อาหารไทย – เป็นแนวๆกับข้าวแบบข้าวราดแกง กับข้าวน่าจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีส้มตำ ข้าวหมูแดง และข้าวมันไก่ด้วยนะ • อาหารอินเดีย - แกงไก่สไตล์อินเดียเหนือทำได้ดี ส่วน Dal Makhni นั้นติดขมไปหน่อย ที่เฟลคือ Naan ที่ทำกองๆซ้อนๆกันไว้จนเย็น แฟ่บ และอมน้ำมันนี่ล่ะ • ของหวาน – มีทั้งขนมไทยๆ ไอศกรีมและเค้กต่างๆ ไปจนถึงขนมเด็กๆแบบลูกอมเยลลี่ candy bar และคาราเมล จัดไว้สวยงามหลากหลายอลังการมาก เลือกมาชิมดู 2-3 อย่าง เนื้อเค้กจะกลางๆ ไม่ถึงกับเนื้อหยาบ แต่ก็ไม่เนียนนุ่มฉ่ำเท่าที่ควร พวกขนมที่เป็นทาร์ตและมูสต่างๆรสหวานนำค่อนข้างมากค่ะ • ผลไม้ - หลักๆเป็นผลไม้ทั่วๆไปอย่างแตงโม ส้ม ชมพู่ แคนตาลูป ฝรั่ง (อันนี้นอกจากเฉาะแล้วยังปอกเปลือกให้ด้วยนะ) เสาวรส และมีแอ็ปเปิ้ลแบบมาเป็นลูกๆเลย ****-The Verdict-**** เป็นบุฟเฟต์ที่เป็นอาหารพื้นๆ - หลายๆอย่างเรียกได้ว่าเป็น street food เลย เพียงแต่ใช้วัตถุดิบที่ดูดีมีคุณภาพขึ้นมาหน่อย เช่นกับข้าวใส่เนื้อหมูเนื้อไก่จัดเต็ม กุ้ยช่ายไส้ตู้ม อย่างซูชิ/ซาชิมิก็เป็นวัตถุดิบธรรมดาๆทั่วไป แต่ใช้แซลมอนเนื้อดีลายสวย ผักสลัดใช้ผักอย่างดี อะไรประมาณนี้ ดูแล้วในไลน์อาหารไม่ได้มีตัวเด็ดๆอย่างซีฟู้ดหรือฟัวกราส์ที่จะทำให้ทานแล้วคุ้มมูลค่าราคาบุฟเฟต์ได้ง่ายๆ (นอกซะจากว่าจะสายแข็งกินจุมากจริงๆ) ในภาพรวมก็เลยแค่กลางๆพอทานได้ ไม่ได้ประทับใจมากนัก ถ้ามีโอกาสได้มาลอง Sunday Brunch ที่หลายๆคนชอบกันอาจดีกว่านี้ค่ะ แต่สำหรับ Lunch Buffet นี้ก็กลางๆนะ #Nov2020
ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ - ร้านสุขลาวัลย์นี้คือหนึ่งในสามร้านก๋วยจั๊บดังย่านบางซื่อ แต่ที่บางคนอาจยังไม่รู้ก็คือที่นี่มีเล้งแซ่บให้สั่งด้วยค่ะ ไม่ได้ทำให้เห็นที่หน้าร้านแต่ก็เขียนไว้ในเมนู ไปนั่งทานกันได้ฟินๆไป เล้งแซ่บ (50 บาท) - ปรุงเมื่อสั่งสดๆชามต่อชาม หอมมะนาวสด-พริกสดจี๊ดจ๊าดได้ใจ เปรี้ยวนำ เค็มตามมาติดๆ เผ็ดกำลังดี เนื้อหมูมีทั้งที่นุ่มนิ่มติดมัน และที่นุ่มปานกลางผสมๆกันไป แยกจานเปล่ามาให้ใส่กระดูก นั่งเลาะเล้งกันเพลิดเพลิน เอาจริงๆเราแอบชอบเล้งของร้านนี้มากกว่าก๋วยจั๊บซะอีกนะ อร่อยถูกใจใช้ได้เลย ใครผ่านมาร้านนี้ เบื่อก๋วยจั๊บก็มาลองเล้งแซ่บๆดูบ้างก็ดีนะคะ #Nov2020
ชิดชล – ร้านอาหารบรรยากาศดีริมแม่น้ำปิงแห่งนี้จัดเป็นร้านดังของจังหวัดตาก การันตีฝีมือด้วยรางวัล Wongnai Users’ Choice 2020 นี้ค่ะ ทราบมาว่าร้านนี้เคยโด่งดังมาตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะปิดตัวไประยะหนึ่งเนื่องจากเจ้าของร้านย้ายตามสามีไปต่างจังหวัด แล้วจึงกลับมาเปิดร้านอีกครั้งยามหลังเกษียณเพราะอยากให้คนรุ่นหลังได้ลิ้มรสอาหารไทยที่ปรุงอย่างประณีตเหมือนอย่างที่คนรุ่นย่ายายทำทานกันที่บ้าน อาหารที่นี่คุณป้าเจ้าของร้านลงครัวปรุงเองทุกจาน แถมยังออกมาต้อนรับและแนะนำเมนูเด็ดๆที่ควรสั่งให้คนมาครั้งแรกอย่างเราด้วย สั่งตามได้เลยไม่ผิดหวังค่ะ ✅ ปลาช่อนชมสวน (300 บาท) ปลาช่อนทั้งตัวบั้งมาสวยๆทานง่าย เนื้อฟูทอดจนผิวกรอบทานอร่อย มีผักลวกและแคบหมูเคียงมาด้วย ทีเด็ดคือน้ำพริกหนุ่มตำใหม่ๆที่รสชาติโดดเด่นมากจริงๆ แตกต่างจากที่ขายกันทั่วๆไปแบบเห็นได้ชัด ทำเอาเราแอบสะกิดคุณป้าจะขอซื้อใส่กระปุกเอากลับบ้าน แต่คุณป้าไม่ขายเพราะกลัวว่าถ้าไม่ได้ทานสดใหม่ทันทีเดี๋ยวรสชาติจะดร็อปให้เสียชื่อร้าน ฉะนั้นถ้าอยากทานต้องมาที่นี่เท่านั้นนะจ๊ะ ✅ ไก่ชิดชล (280 บาท) เมนูดังที่เคยนำออกรายการครัวคุณต๋อยมาแล้ว แถมเอาชื่อร้านเป็นประกันแบบนี้ มาถึงร้านทั้งทีก็ต้องจัดล่ะค่ะ ไก่ตัวย่อมๆหมักเครื่องปรุงถึง 3 ชั่วโมง ทอดไฟแรงพอให้หนังตึงแล้วนึ่งต่อจนสุกทั่วถึง พอจะเสิร์ฟก็ทอดไฟกลางอีกครั้ง แล้วราดน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยบางๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่แบบหวาน เรียกได้ว่าเป็นไก่ทอดแบบ Double Fry สไตล์ไทยๆสูตรคุณป้าที่ทำมาก่อนไก่ทอดเกาหลีจะฮิตในบ้านเราซะอีก ชิมแล้วเด็ดจริงสมกับชื่อเสียง เนื้อไก่นุ่มแต่เนียนแน่น หนังไก่บางๆกรอบกริ๊บได้ใจ รสชาติแม้จะหวาน แต่ก็สมดุลกันดีกับความเค็มจากเครื่องปรุงที่ใช้หมัก ทานกับหมี่กรอบที่ก็ทอดมาดีเยี่ยม กรอบฟูเบาไม่มีส่วนไหนแข็งๆให้รำคาญ อร่อยสุดๆไปเลย ✅ ผัดเผ็ดซี่โครงหมูอ่อนไข่เค็มจิ๋ว (150 บาท) จะว่าไปแล้วจานนี้ก็คือผัดกระเพราหมูสับที่ผัดแบบรวนมาแห้งๆ โรยใบกระเพรากรอบใส่พริกไทยสด มีความเก๋ตรงที่เสิร์ฟกับไข่เค็มจิ๋วที่อุตส่าห์ประดิดประดอยทำมาให้พอดีคำ มีข้อดีคือไม่เลี่ยนน้ำมันแบบผัดกะเพราที่ใส่ไข่ดาวธรรมดาทั่วไป และได้รสเค็มจากไข่เค็มที่ทำให้รสชาติน่าสนใจกว่าการใส่น้ำปลาพริกขี้หนูนั่นเอง ✅ แกงส้มชะอมกุ้ง (150 บาท) เป็นแกงส้มที่มีความเปรี้ยวแกมหวานนิดๆสมดุลกันดี เราชอบที่ไม่ได้เน้นรสมะขามเปียกจ๋าจนเกินไป แต่มีการเติมมะเขือเทศสดเคี่ยวลงไปผสมช่วยเสริมรสเปรี้ยวได้อย่างสดชื่น ยกระดับรสชาติให้มีความละเมียดซับซ้อนขึ้น น้ำแกงส้มเข้มข้นถึงใจแทบจะเรียกได้ว่าขลุกขลิก กุ้งเนื้อสุกกำลังดีนุ่มเด้งแบบเป๊ะเว่อร์ ฝีมือจริงๆ ✅ ผัดวุ้นเส้นชิดชล (150 บาท) จานนี้วุ้นเส้นเนื้อสัมผัสดีมาก เหนียวนุ่มลื่น ไม่มีการแฉะหรือเกาะเป็นก้อน ผัดมาดีไม่นองน้ำมัน ได้รสหวานจากกระเทียมดอง ใส่กุ้งนุ่มๆเด้งๆมาหลายตัว แถมยังใส่ชะอมมาเพิ่มรสชาติได้เหมาะเจาะ อร่อยอีกแล้ว ✅ เฉาก๊วย (30 บาท) คิดว่ารับมาขายเพราะไม่มีในเมนูแต่มีให้สั่งมาเป็นของหวานตบท้าย เฉาก๊วยเนื้อนุ่มหนึบ น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดงหอมหวานเย็นชื่นใจดีค่ะ แม้อาหารแต่ละจานจะดูเป็นอาหารไทยพื้นบ้านที่ไม่ได้เน้น presentation หวือหวาอลังการ ดูๆแล้วก็เหมือนร้านแนวสวนอาหารทั่วไป แต่รสชาติที่ได้ชิมนั้นจะเรียกว่าเป็นอาหารตำรับชาววังเลยก็คงได้ เพราะเป็นอาหารไทยที่ปรุงได้อย่างมีชั้นเชิง ไม่ใช่แค่ปรุงพริกปรุงน้ำปลา หากแต่อาศัยการผสมผสานรสชาติและเนื้อสัมผัสของวัตถุดิบต่างๆให้ออกมาได้ลงตัวละเมียดละไม เรื่องเทคนิคการทำอาหารคือไม่มีพลาด ส่วนเรื่องบรรยากาศก็เป็นเรือนไทยโปร่งๆรับลมแม่น้ำ ทานอาหารไปชมวิวแม่น้ำปิงกับสะพานกิตติขจรไป รอบๆร้านเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณเขียวชอุ่ม น่ารื่นรมย์ดีมากๆ ทำให้ร้านนี้ขึ้นแท่นร้านโปรดของที่บ้านไปแล้วเรียบร้อย ถ้าผ่านไปจังหวัดตากอีกเมื่อไหร่ก็คงต้องแวะไปซ้ำอีกบ่อยๆแน่นอนค่ะ #Nov2020
เฮียหวาน ข้าวต้มปลา นี้เป็นร้านที่เราอยากลองมานาน เพราะมีรางวัลทั้ง Wongnai Users' Choice และ Michelin BIB Gourmand รับประกันคุณภาพ ขึ้นชื่อเรื่องความสดความตู้มของวัตถุดิบอาหารทะเล กับครั้งนี้เลยขอสั่ง Line Man มาทานที่บ้านกันค่ะ ทางร้านแพ็คแบบข้าวต้มแห้งใส่ข้าวกับเครื่องตามที่สั่งไว้ถุงนึง แล้วแยกน้ำซุปต่างหากอีกถุง มีน้ำส้มและน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวแยกมาให้เป็นชุดๆค่ะ ****-เมนูที่สั่ง-**** ➡️ ข้าวต้มกุ้ง + บะเต็ง ➡️ ข้าวต้มปลาเก๋า + บะเต็ง เม็ดข้าวที่นี่หุงนุ่มเม็ดข้าวซับน้ำซุปเต็มที่ ซึ่งเป็นแบบที่เราชอบเลย ปลาเก๋าสดเด้งเนื้อแน่นอร่อยสมคำร่ำลือ ส่วนกุ้งนั้นส่วนใหญ่สดและตัวอวบใช้ได้ แต่มีที่ไม่ค่อยสดหลุดปนมาตัวนึงค่ะ บะเต็งที่นี่จะใช้หมูเป็นชิ้นๆอวบๆและมีน้ำบะเต็งเยอะทีเดียว ไม่ได้รวนจนแห้งกรอบแบบบางเจ้าที่เคยทาน รสชาติน้ำบะเต็งจะกึ่งเค็มกึ่งหวาน ถ้าสั่งข้าวต้มบะเต็งเดี่ยวๆน่าจะอร่อยเลย แต่พอสั่งบะเต็งผสมรวมกับปลาและกุ้งปรากฏว่าไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ เพราะรสชาติ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งความหวาน) ของน้ำบะเต็งของที่นี่นั้นไม่เข้ากับวัตถุดิบอาหารทะเลนัก ครั้งต่อไปถ้าสั่งแยกกันน่าจะฟินกว่านี้ล่ะค่ะ #Nov2020